• ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 3 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี มีมุมมองเชิงบวกและการปรับตัวขึ้นของข้อมูลเงินเฟ้อ พร้อมทั้งยังคงหนุนแนวทางการถอนนโยบายการเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นกว่า 2.5% ไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ 1.1815 ดอลลาร์/ยูโร จากแถว 1.1755 ดอลลาร์/ยูโร
รายงาน ECB Projections เผยอัตราเงินเฟ้อจะขยับขึ้นแตะ 1.7% จนถึงปี 2020 ขณะที่ Core Inflation จะแตะ 1.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
• ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันต่อเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัวที่ 94.192 จุด หลังสื่อรายงานว่า นายร็อด โรเซ็นสไตน์ รองอัยการสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ประกาศลาออก เนื่องจากเขาคาดกาณร์ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวคิดที่จะสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ นายร็อด กำลังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพิเศษำหรับการสืบสวนกรณีการแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 และเดิมทีมีกำหนดการจะพบกับนายทรัมป์ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการดำรงอยู่ในตำแหน่งงานของเขา
• ตลาดกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งการประชุมในเดือนธ.ค.ด้วย ขณะที่ในปีหน้ามีแนวโน้มจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้อีกเป็นจำนวน 2-3 ครั้ง
• นักวิเคราะห์จาก Natwest Market เชื่อว่า สมาชิกเฟดส่วนใหญ่น่าจะเห็นควรให้เฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่ปี 2019 มีโอกาสเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้จำนวน 3 ครั้ง และอีก 1 ครั้งที่จะปรับขึ้นในปี 2020
• นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าฉบับล่าสุดของทั้งสหรัฐฯและจีน ต่างมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณจากสหรัฐฯที่ไม่มีท่าทีจะผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้าแต่อย่างใด ส่งผลให้หลายๆฝ่ายต่างกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ทางการจีนได้ออกมากล่าวว่า สหรัฐฯกำลังทำการ “กลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจ” เพื่อเป็นการข่มขู่ให้ประเทศคู่ค้ายอมรับความพ่ายแพ้ผ่านการขึ้นภาษี
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังคงมีความยินดีที่จะเริ่มต้นการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯใหม่อีกครั้ง หากการเจรจาดังกล่าวดำเนินไปด้วย “ความเท่าเทียมและความเคารพต่อกันและกัน”
• นางเซซิเลีย มาร์มสตอร์ม กรรมาธิการด้านการค้าประจำสหภาพยุโรป ระบุว่า สหภาพยุโรปและสหรัฐฯกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับการค้าเพียงแค่รายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้น และยังไม่มีการเจรจาร่างสนธิสัญญาการค้าอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
โดยทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามหาหนทางที่สหรัฐฯจะสามารถส่งก๊าสธรรมชาติมาให้กับยุโรปได้ รวมถึงพยายามลดกำแพงทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายลง
ทั้งนี้ นางเซซิเลียได้กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวระหว่างการประชุมของบรรดาเสณาธิการประจำองค์การสหประชาชาติที่กำลังจัดขึ้นที่เมืองนิวยอร์กของสหรัฐฯ
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ร่วมลงนามในสนธิสัญญาการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ โดยนายทรัมป์ยกย่องให้การลงนามครั้งนี้ นับเป็นครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์
• น้ำมันดิบ Brent ปิดรับขึ้นกว่า 3% ไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปีเหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียไม่ยอมปรับเพิ่มกำลังการผลิตใดๆ แม้จะมีการเรียกร้องจากทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ต้องการให้ดำเนินการเพิ่มอุปทานตลาดโลก
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 2.4 เหรียญ คิดเป็น +3.1% ที่ระดับ 81.2 เหรียญ/บาร์เรล หลังไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันบริเวณ 81.39 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดขึ้น 1.3 เหรียญ คิดเป็น +1.8% ที่ระดับ 72.08 เหรียญ/บาร์เรล