• ราคาทองคำทรงตัวทรงตัวเช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ที่ทรงตัวก่อนทราบผลประชุมเฟดในช่วง 2 วันนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก
ราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวที่ 1,198.8 เหรียญ ขณะที่ Gold Futures ปรับอ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 1,203.1 เหรียญ
• หัวหน้าฝ่ายการตลาด APAC จาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำทรงตัวแถวระดับ 1,200 เหรียญ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมีการปิดสถานะ Short จากกรณีที่เฟดอาจตัดสินใจนอกเหนือความคาดหมาย โดยอาจมีการระบุถึงแนวทางการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2019 ได้ และท่าทีผ่อนคลายนโยบายของเฟดอาจทำให้ทองคำกลับมาแถว 1,210 เหรียญได้ โดยต้องรอจับตาสัญญาณชี้นำของเฟดในสัปดาห์นี้
• นักลงทุนรอคอยรายละเอียดการประชุมเฟดที่จะเริ่มเปิดฉากประชุมในวันนี้เป็นวันแรก ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะเห็นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนี้ และอาจมีการส่งสัญญาณถึงแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตด้วย
• ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 12% จากระดับสูงสุดช่วงเดือนเม.ย. จากประเด็นข้อขัดแย้งทางการค้าและการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
• จีนและสหรัฐฯมีการเรียกเก็บภาษีฉบับใหม่ระหว่างกันโดยมีผลเมื่อวานนี้ จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
โดยบรรดาเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์มีมุมมองว่าราคาทองคำในช่วง 5 สัปดาห์มีการเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 30 เหรียญ แต่การประชุมเฟดก็อาจทำให้ราคาทองคำมีการ Breakout ออกจากกรอบการลงทุนได้
• นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก DailyFX กล่าวว่า หากภาวะสงครามการค้ายังคงยืดยื้อและสร้างความกังวลประกอบกับความเชื่อมั่นในตลาดเกิดใหม่ยังไม่สดใสก็อาจเห็นค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นได้และจะส่งผลให้ราคาทองคำเผชิญความผันผวน
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ ระบุว่า อาจเห็นราคาทองคำกลับทดสอบแนวรับ 1,194 เหรียญ โดยหากหลุดลงมามีโอกาสเห็นราคาทดสอบระดับแนวรับถัดไปที่ 1,187 เหรียญ
• ราคาพลาเดียมปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 ก.พ. ที่ 1,061.8 เหรียญ ก่อนจะทรงตัวแถว 1,059 เหรียญในการซื้อขายวันนี้
ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.4% ที่ระดับ 827.3 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.2% ที่ระดับ 14.24 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ ก็จะเห็นได้ถึงความผันผวนในค่าเงินดอลาร์เมื่อวานนี้ที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนทิศทางทองคำเป็นสำคัญ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีดอลลาร์ทำ Low ที่ระดับ 93.84 จุด ก่อนจะทรงตัวแถว 94.2 จุด ขณะที่การประชุมเฟดในวาระนี้ถูกคาดว่าเฟดจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ขณะเดียวกันการประชุมวาระนี้จะมีการกล่าวให้ถ้อยแถลงของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์
Technical levels to consider
ราคาทองคำระดับวันปิดต่ำกว่า 1,200 เหรียญซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา และมีโอกาสเห็นทองคำปรับลงมาทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 21 ก.ย. ที่ระดับ 1,191 เหรียญ และระดับ 1,183 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 24 ส.ค.
ในทางกลับกัน ราคาทองคำอาจกลับเป็นขาขึ้นได้หากราคาผ่านแนวต้านที่เป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันบริเวณ 1,202 เหรียญก็อาจเห็น 1,210 เหรียญ ซึ่งเป็น High เดิมเมื่อ 21 ก.ย. และ 1,217 เหรียญ ที่เป็นสูงสุดเดิมเมื่อ 10 ส.ค.
• วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค : การเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ อาจนำไปสู่การ Breakout ครั้งใหญ่
นักวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำได้เคลื่อนไหวแบบสะสมพลังอยู่ในกรอบแคบติดต่อกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย. โดยเคลื่อนไหวไม่เกิน 20 เหรียญระหว่าง 1,190 – 1,210 เหรียญ ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยราย 50, 100, และ 200 วัน ต่างเคลื่อนไหวแบบพันพันไปมา
จึงวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำไม่มีสัญญาณถึงทิศทางขาขึ้นหรือขาลงเลย ดังนั้น หากเกิดการ Breakout ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก็จะกลายเป็นการกำหนดทิศทางในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป
ทิศทางหลัก : ขาลง
ทิศทางระยะสั้น : ไร้ทิศทาง
แนวต้าน 1: 1,204.10 (ระดับต่ำสุด 3 ส.ค.)
แนวต้าน 2: 1,211.17 (ระดับต่ำสุด 19 ก.ค.)
แนวต้าน 3: 1,214.30 (ระดับสูงสุด 28 ส.ค.)
แนวรับ 1: 1,194.30 (ระดับต่ำสุด 10 มี.ค. 2017)
แนวรับ 2: 1,189.49 (ระดับต่ำสุด 4 ก.ย.)
แนวรับ 3: 1,172.82 (ระดับต่ำสุด ปี 2018)