โดยราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2018 พร้อมส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. นี้ รวมถึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถเติบโตต่อไปได้อรกอย่างน้อย 3 ปี จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้
ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 1,202.10 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก OANDA ประเมินว่า การที่เฟดไม่ได้มีท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากตามที่ตลาดคาดไว้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเฟดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อบรรดาตลาดเกิดใหม่ โดยจะเห็นได้จาก ดัชนี MSCI ที่วัดค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ ที่ปรับขึ้นได้ 0.2% ขณะที่คาดการณ์ว่า ราคาทองคำน่าจะมีแรงเทขายแถวระดับ 1,200 เหรียญ ขณะเดียวกันก็จะมีแรงเข้าซื้อแถว 1,190 เหรียญ
• ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้อ่อนกำลังลงในช่วงบ่ายวันนี้ ท่ามกลางการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
• นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone ประเมินว่า ถ้อยแถลงจากเฟดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ในทันทีมากนัก จึงคาดว่าค่าเงินจะค่อยอ่อนค่าลงในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป ขณะที่ราคาทองคำก็อาจได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังไร้สัญญาณว่าจะสามารถหลุดจากกรอบการเคลื่อนไหวปัจจุบันได้ภายในเร็วๆนี้
• รัฐบาลจีนเปิดเผยนโยบายลดภาษีสำหรับการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า และสิ่งทอจากต่างประเทศ โดยมีจะผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯที่ยังคงมีอยู่
• ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,071.22 เหรียญ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 1,075 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.1% บริเวณ 14.44 เหรียญ และราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.7% บริเวณ 826.70 เหรียญ