• ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยในช่วงบ่ายเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,182.52 เหรียญ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มทรงตัว หลังจากปรับแข็งค่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาสดใส และแรงหนุนจากแนวโน้มที่เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2019
โดยราคาทองคำเมื่อคืนนี้ ปรับลดลงมาเกือบ 1% ทำระดับต่ำสุดที่ 1,181.61 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาทองคำปรับลดลง 1.2% และมีแนวโน้มปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4
ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1.188.80 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities ประเมินว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ยังมีแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
• ขณะที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคืนวันพุธที่ผ่านมา พร้อมคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4 ครั้งสำหรับปี 2019 และ 2020
• นักวิเคราะห์จาก GoldSilver Central ประเมินว่า ราคาทองคำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พยายามขึ้นเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 1,200 เหรียญ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเชื่อว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อไป ขณะที่ราคามีแรงหนุนบางส่วนจากการเข้าซื้อของภาคธุรกิจ
• ทั้งนี้ ราคาทองคำได้ปรับร่วงลงมากว่า 13% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือน เม.ย. ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับ Trade warที่ส่งผลให้นักลงทุนเข้าหาค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าทองคำ
• รายงานจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวหาว่าจีนกำลังจ้องแทรกแซงการเลือกตั้งกลางวาระ เปรียบเสมือนเป็นการยกระดับมาตรการกดดันรัฐบาลจีน นอกเหนือจากการใช้นโยบายทางการค้า
ซึ่งนักวิเคราะห์จาก ABC Bullion ประเมินว่า หาก Trade war ยังคงสนับสนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ราคาทงคำก็มีโอกาสที่จะปรับลดลงจากประเด็นนี้ได้อีก แม้แรงเข้าซื้อจะสามารถรองรับการร่วงลงของราคาทองคำได้บ้างก็ตาม
• ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 1,087.40 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 14.29 เหรียญ และราคาแพลทตินั่มปรับลดลง 0.4% บริเวณ 806.0 เหรียญ