· ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ในช่วงระหว่างเดือนเม.ย.ถึงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวจากการปรับฐานในเดือนก.พและมี.ค. และการเอาชนะต่อความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า
โดยข้อมูลจาก Bespoke แสดงให้เห็นว่าดัชนี S&P 500 จะมีการปรับขึ้นโดยเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4/2018 ประมาณ 9.2% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงระหว่างเดืนอเม.ย.-ก.ย. โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยมัธยฐานที่ 8.2%
ในช่วง 6 เดือนรวมวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ปรับตัวสูงขึ้น 11% ขณะที่ภาพรวมรายปีสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ 9.5% โดยดัชนีทำ New High เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
· คาดการณ์ดัชนี S&P 500 – ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการเจรจา NAFTA
ดัชนี S&P 500 เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรับสูงขึ้นอย่างมากในช่วงต้นตลาด ตอบสนองกับข่าวที่สหรัฐฯและแคนาดาสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ที่จะนำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาการค้าร่วมกันร่วม สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก
ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 อยู่ในภาวะ “ลงซื้อขึ้นขาย” อย่างสมบูรณ์ โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,950 จุด ซึ่งหากดัชนีสามารถ Break ไปได้ ตลาดก็จะเริ่มมองเป้าหมายต่อไปที่ 3,000 จุด แต่ไม่ได้หมายความว่าดัชนีจะสามารถปรับขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวได้โดยง่ายหรือภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถปรับขึ้นไปได้ในช่วงปลายปี 2018 นี้ ขณะที่ระดับ 2,900 จุด ถือเป็น “ฐาน” ใหม่สำหรับดัชนี โดยหากดัชนีหลุดระดับนี้ลงไปก็น่าจะเกิดแรงเทขายตามมาอย่างมาก
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง หลังตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้เนื่องจากสหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx 600 ลดลงประมาณ 0.4% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางประเด็นสหรัฐฯและแคนาดาสามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ร่วมกันได้ ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับมุมเศรษฐกิจโลกกดดันความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 1.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกทำระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี ท่ามกลางแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใส ขณะที่หุ้น Ono Pharmaceutical ปรับสูงขึ้น หลังมีการมอบรางวัลโนเบลให้กับแพทย์ผู้ศึกษาวิจัยการรักษามะเร็งรูปแบบใหม่ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด +0.1% ที่ระดับ 24,270.62 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน พ.ย. ปี 1991