• ราคาทองคำปิดทรงตัวท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกของสหรัฐฯที่มาหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และได้จำกัดการเข้าซื้อสินค้าปลอดภัย โดยราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,197.87 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดลง 1.3 เหรียญ คิดเป็น +0.11% ที่ระดับ 1,201.6 เหรียญ
• กองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 731.64 ตัน
• สำหรับภาพรวมสัปดาห์นี้จะเห็นได้ถึงจังหวะที่ราคาทองคำ Break เหนือ 1,200 เหรียญ แต่สุดท้ายก็กลับลงจากตลาดหุ้นหุ้น และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนลดความสนใจในทองคำ
• นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก จึงคาดว่ามีโอกาสเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อในปีหน้าเป็นจำนวน 4 ครั้ง จากคาดการณ์ 3 ครั้ง และการขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะยิ่งทำให้นักลงทุนสนใจในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมากกว่าทองคำ
• ค่าเงินดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและค่าเงินยูโร ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีมุมมองต่อผลกระทบความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกอาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี
• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า นักลงทุนบางส่วนก็มีการถือครองทองคำอยู่ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
• เจ้าหน้าที่บริหารจาก CPM Group กล่าวว่า นักลงทุนตลาดหุ้นเริ่มมีท่าทีระมัดระวังต่อภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จึงทำให้เห็นเม็ดเงินบางส่วนกลับสู่ตลาดทองคำ ขณะที่กระแสคาดการณ์ที่ว่าข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯจะสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ก็อาจทำให้ดอลลาร์ยังแข็งค่าได้อยู่ ดังนั้น จึงไม่เห็นปัจจัยใดที่จะมาเป็นเหตุผลให้มีการเข้าซื้อทองคำมากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ
• บรรดานักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนนี้ โดยผลสำรวจจากรอยเตอร์สมองว่าอาจมีการจ้างงานขยายตัวได้ 185,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. จาก 201,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
• กองทุนทองคำ SPDR ซึ่งเป็นกองทุนด้านทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวันพุธลดการถือครอง 0.8% และทำให้ภาพรวมมีการเทขายออกมากว่า 4.5 ล้านออนซ์ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย.
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ระดับ 14.56 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.1% ที่ระดับ 1,054.22 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.2% ที่ระดับ 823.3 เหรียญ