· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงในคืนวันศุกร์หลังข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯคืนวันศุกร์ออกมาแย่ลงเกินคาดในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราค่าแรงขยายตัวได้ตามคาด จึงคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นของเฟ้อลงไป แต่ภาพรวมของข้อมูลแรงงานที่สะท้อนในเชิงบวกก็จะยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้เฟดยังเลือกเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ขณะที่นักลงทุนรอสัญญาณบ่งชี้เพิ่มเติมจากสัญญาณค่าแรงที่อาจปรับขึ้นได้อย่างรวดเร็วในภาคบริษัทต่างๆ อาทิ บริษัทอะเมซอนที่จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงไปแตะ 95.516 จุด จากระดับประมาณ 95.77 จุดก่อนทราบข้อมูลจ้างงาน ก่อนที่จะกลับมาทรงตัวบริเวณ 95.678 จุด
ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1525 ดอลลาร์/ยูโร โดยดีดกลับหลังจากที่ไปทำระดับต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1.1462 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 113.7 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 114.55 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย.ปีที่แล้ว
ค่าเงินปอนด์ปรับขึ้น 1.3126 ดอลลาร์/ปอนด์ จากความเป็นไปได้ที่ Brexit มีความคืบหน้ามากขึ้น
· ผลการประกาศข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯชะลอตัวลงในเดือนก.ย. แตะระดับ 134,000 ตำแหน่ง หรือลดลงจากเดือนก่อนหน้าลงไปประมาณ 67,000 ตำแหน่ง โดยมีแนวโน้มว่าได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในร้านอาหารและร้านค้าปลีก แต่อัตราว่างงานยังคงปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 49 ปีหรือต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. ปี 1969 ที่ระดับ 3.7% จากเดิม 3.9% ซึ่งการปรับตัวลงล่าสุดสอดคล้องกับรายงานคาดการณ์ของเฟดที่จะเห็นระดับ 3.7% ในช่วงสิ้นปีนี้ และส่งผลให้ภาพโดยรวมของการจ้างงานยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯนั้นยังคงขยายตัวได้สูงกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงแรงงานกำหนดไว้ที่ 120,000 ตำแหน่ง จึงยังถือว่าการจ้างงานนั้นขยายตัวได้ดี
อัตราค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงขยายตัวได้ 0.3% ในเดือนก.ย. โดยลดลงจากเดิมในเดือนส.ค.ที่ขยายตัวได้ 0.4% ส่งผลให้ภาพรวมรายงปีอัตราค่าจ้างปรับตัวลงแตะ 2.8% จากระดับ 2.9% ที่เป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี
· บรรดาสมาชิกในรัฐสภาเตือนนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ว่าอังกฤษยังสามารถอยู่ในระบบการค้ากับสหภาพยุโรปในปัจจุบันได้จนถึงปี 2020 เท่านั้น นอกจากนี้บรรดาสมาชิกยังเปิดโอกาสให้นางเมย์สามารถพิจารณาแผนการเจรจา Brexitได้ต่อไปจนถึงปี 2020 ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งครั้งต่อไปของอังกฤษ
· นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับ Financial Times โดยระบุว่า ญี่ปุ่นแสดงความยินดีที่จะต้อนรับอังกฤษเข้าร่วมข้อตกลง Pacific Trade Pact (PTT)
· นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ตกลงที่จะร่วมกันจัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศเป็นครั้งที่ 2 “อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ขณะที่นายไมค์ กล่าวว่าการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด เป็นอีกก้าวสำหรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และการเจรจาก็เป็นไปในเชิงบวก
· น้ำมันดิบปิดทรงตัวหลังจากที่ราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 4 ปีในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ของน้ำมันดิบทั้ง 2 ตัวยังคงปรับขึ้นได้ก่อนที่สหรัฐฯจะทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1 เซนต์ ที่ระดับ 74.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 42 เซนต์ ที่ระดับ 84.16 เหรียญ/บาร์เรล