· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 1,189.58 เหรียญ หลังปริมาณความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงลดลงไป โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ท่ามกลางความเกี่ยวกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,193.0 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก OANDA ประเมินว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากแรงเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร ประกอบกับการเข้าซื้อเพื่อถือครองในฐานะ Safe-haven เนื่องจากความกังวลว่าตลาดหุ้นอาจเผชิญกับแรงเทขายลงมา
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังค่าเงินหยวนอ่อนค่าหลุดระดับสำคัญทางจิตวิทยา จึงกดดันในค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าตามเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
· IMF มีการประกาศปรับลดแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางภาวะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้านานาประเทศที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่บรรดาตลาดเกิดใหม่อาจถูกกดดันจากความตึงตัวของตลาดการเงินและการไหลออกของแหล่งเงินทุน
· นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Financial Group ระบุว่า ราคาทองคำในระยะสั้นได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade war ความตึงเครียดในการเมืองอิตาลี และการที่กระแสเงินไหลออกจากตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีปัจจัยกดดันหลักมาจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จึงคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งราคาน่าจะแกว่งตัวระหว่างจุดนี้ไปอีกสักระยะ
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำน่าจะชนแนวต้านที่ระดับ 1,193 เหรียญ ก่อนที่จะกลับลงไปทดสอบระดับ 1,184 เหรียญ
· ด้านราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 14.40 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 816.99 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,073.50 เหรียญ