• ราคาทองคำทรงตัวท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบแนวโน้มการข้นดอกเบี้ยของเฟดที่กำลังกดดันตลาดหุ้นเช่นกัน
• ราคาทองคำทรงตัวที่ 1,188.2 เหรียญ หลังจากที่วันก่อนไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 28 ก.ย. ที่ 1,183.04 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับลงไป 1.2% ซึ่งถือเป็นการปรับลงรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค.
• ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดปรับขึ้น 2.9 เหรียญ คิดเป็น +0.24% ที่ระดับ 1,191.5 เหรียญ
• ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายประจำ High Ridge Futures กล่าวว่า ประเด็น Trade War ระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจากตลาดหุ้นเป็นปัจจัยที่สนับสนุนที่ชดเชยสถานการณ์กระแสขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า แรงเทขายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรถูกจำกัดจากความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลก และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ก็ถูกจำกัดจากการอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียถูกแรงเทขายเข้ามากดดันทำระดับต่ำสุดรอบ 17 เดือน และตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบ 6 เดือน
• สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงหลงไอเอ็มเอฟ ระบุว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่การรีบาวน์ของหุ้นเทคโนโลยีช่วยจำกัดการปรับลงของหุ้นสหรัฐฯได้บ้าง
• ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ มีการหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 โดยเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจโลกได้รับแรงกดดันจากข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
• นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered มองว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะให้ความสนใจในช่วงต้นเดือนพ.ย. ที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ รวมทั้งติดตามผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 730.17 ตัน
• ราคาซิลเวอร์ปิด +0.4% ที่ระดับ 14.40 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.4% ที่ระดับ 820.65 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.4% ที่ระดับ 1,070.5 เหรียญ