• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้แต่ก็ถูกจำกัดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น ขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ได้ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อกลับดันราคาทองคำในตลาด
อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้ความสำคัญ คือ ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ที่หากยังคงออกมาดีกอาจจะทำให้เฟดยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในปี 2019 ต่อได้ ขณะที่ผลสำรวจ PMI ก็ดูมีแนวโน้มจะสะท้อนต่อการคุมเข้มทางการเงินของเฟด
• นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นอาจทำให้เกิดความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้นได้ โดยสภาวะของตลาดในปัจจุบัน ทำให้นักวิเคราะห์หลายๆรายให้ความสำคัญกับระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับแรกที่ทองคำจำเป็นต้องขึ้นให้ได้อย่างชัดเจน
• หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก SIA Wealth Management กล่าวว่า ราคาทองคำขณะนี้ปรับตัวขึ้นแต่ก็ยังขึ้นได้น้อยเมื่อเทียบกับการตกของตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งราคาทองคำจำเป็นต้องยืนให้ได้เหนือ 1,200 เหรียญ หากไม่สามารถไปได้ก็ไม่ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่โดยส่วนตัวเขาก็คาดหวังจะเห็นราคาปรับตัวขึ้นจากสถานการณ์ที่ดูเข้าทางในตอนนี้ เนื่องจากเราไม่เห็นสภาวะแบบนี้มาเป็นเวลานาน โดยที่ตลาดหุ้นมีการปรับลงและมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินเริ่มไหลกลับสู่การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco มองว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเห็นทองคำกลับขึ้นไปที่ 1,200 เหรียญ ในขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มมีการปรับฐาน
• กรรมการผู้จัดการจาก RBC Wealth Management กล่าวว่า การฟื้นตัวของราคาทองคำไม่ได้ขยับขึ้นได้มากนัก เขาจึงคิดว่านักลงทุนและเหล่าเทรดเดอร์กำลังเทขายเพื่อเสริมสภาพคล่องของบัญชีหุ้นของพวกเขาเอง แต่ในขณะนี้ก็ดูจะมีปัจจัยบวกมากมายที่จะมาสนับสนุนการปรับขึ้นของราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ความผันผวนของค่าเงินจากประเด็นการเมืองในอิตาลี, กรีซ, บราซิล, อาร์เจนตินา, เวเนซูเอล่า และจีน ที่กลายเป็นประเด็นเด่นของข่าวเศรษฐกิจ และทั้งหมดนี้น่าจะส่งผลให้ทองคำขยับขึ้นได้
นอกจากนี้ เขายังมองว่าแรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นเป็นเพียงภาวะตื่นตระหนกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สร้างแรงเซอร์ไพร์สครั้งใหญ่ ซึ่งดูเหมือนตลาดหุ้นจะมีมุมมองที่ดีก่อนจะทราบรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 แต่ภาคบริษัทฯก็ดูเหมือนจะเผชิญกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอันเป็นผลมาจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และนั่นไม่ได้ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้าถือครองทองคำมากนัก
• Daily FX ระบุว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางที่ชัดเจนมาตั้งแต่เดือน ส.ค. โดยยังมีกรอบการเคลื่อนไหวเดิมระหว่าง $1,180 – $1,215 ซึ่งทุกๆครั้งที่ราคาเคลื่อนไหวเข้าใกล้แนวรับหรือแนวต้านเหล่านี้ มักจะเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรหรือการเทขายในระยะสั้นๆเท่านั้น และราคายังคงปราศจากปัจจัยหนุนหรือกดดันที่ชัดเจน ดังนั้นจึงแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบดังกล่าว และรอดูการ Breakout ต่อไป
• นักวิเคราะห์จาก Trading View มองทองคำเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม (Triangle) จึงคาดว่ามีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นได้อีกประมาณ 15 เหรียญ จากระดับต่ำสุดในปัจจุบัน ไปที่ระดับ 1,205 เหรียญ และเมื่อถึงระดับดังกล่าวก็จะเห็นถึงการปรับลงของทองคำหรือ Break ลงมาได้
• นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบการซื้อขายปานกลางและสามารถยืนเหนือระดับแนวรับซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมในเดือนก.ย. ที่ 1,180.86เหรียญได้ แต่หากหลุดต่ำลงมาก็มีโอกาสที่จะหเ็นราคากลับลงมาที่ระดับต่ำสุดเดิมของช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ 1,160.37 เหรียญ ขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ 1,214.3 จุด ซึ่งหากฝ่าไปได้ก็มีโอกาสเห็นราคาทองคำกลับทดสอบที่ระดับราคา 1,235.24 - 1,241.64 เหรียญ