ขณะที่ราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับลดลง 0.3% บริเวณ 1,224.30 เหรียญ
• ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 3% ซึ่งเป็นระดับปรับขึ้นรายวันที่มากที่สุดในรอบนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2016 ท่ามกลางแรงหนุนหลังตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก จากความกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนหันกลับเข้าหา Safe-haven
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า ราคาทองคำยังคงมีปัจจัยกดดันหลักคือแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
• ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Precious Metals ระบุว่า “ระบุว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาได้จากแรงเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven แม้ในช่วงตลาดเอเชียจะเริ่มเห็นได้ถึงแรงเทขายกำไรในบางส่วน แต่ยังคงมองราคาทองคำอยู่ในทิศทางที่สดใส เนื่องจากราคาสามารถ Break แนวต้านที่ 1,200 เหรียญ รวมถึงปรับขึ้นเหนือระดับ 1,225 เหรียญ ซึ่งถือเปนสัญญาณขาขึ้นที่ดีของราคาทองคำ ประกอบกับการเข้าซื้อทองคำแท่งในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. น่าจะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
• ด้านดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 94.69 จุด ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง รวมถึงตลาดหุ้นที่ถูกเทขายลงมา ทำให้มุมมองที่มีต่อตลาดสหรัฐฯไม่ค่อยสดใสนัก
• ราคาทองคำเริ่มอ่อนกำลัง หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์
ราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อยในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ $1,226 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยราคาในช่วงเที่ยงได้ปรับลดลงมาประมาณ 0.20% ที่บริเวณ $1,218
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก FX Street ประเมินว่า การย่อตัวของราคาทองคำน่าจะสอดคล้องกับภาวะ Overbought ที่เห็นได้จากเส้น RSI ในกราฟราย 4 ช.ม.
จับตาที่เส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน
ราคาทองคำได้ปรับขึ้นเหนือระดับ $1,214 ท่ามกลางแรงเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven เนื่องจากตลาดหุ้นถูกเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้ภาพรวมระยะสั้นกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน หรือระดับ 1,226 เหรียญไปได้ในช่วงตลาดวันนี้ อาจทำให้ทิศทางขาขึ้นของทองคำจบลงแค่นี้
ระดับสำคัญทางเทคนิค
แนวต้าน: $1226, $1238 , $1251
แนวรับ: $1214, $1200, $1191