• ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 89.44 จุด คิดเป็น -0.35% ที่ระดับ 25,250.55 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.59% ที่ระดับ 2,750.79 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลง -0.88% ที่ระดับ 7,430.74 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงท่ามกลางภาวะการซื้อขายในตลาดปานกลาง ท่ามกลางการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และผลประกอบการภาคบริษัท
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นหลักๆยังคงได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินเยน และสวิสฟรังก์ รวมทั้งทองคำ
• เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 22 เดือน หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่ที่เคยมีการปรับฐานในช่วงเดือนก.พ. อันเป็นผลมาจากTrade War, การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ, การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน, Brexit และงบประมาณอิตาลีและอียูที่ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยเข้ากดดันตลาด โดยดัชนี STOXX600 ปิด -0.6% ที่ 356.8 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2016
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นในเช้านี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.28% ท่ามกลางดัชนี Topix ที่ปิดขึ้น 0.15% โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้น Softbank ที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเช้านี้ โดยดีดกลับได้ 3.47% จากที่ปิดร่วงลงเมื่อวานนี้
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.46% และดัชนี ASX200 ของออสเตรเลียเปิด +0.54% ตามหุ้นส่วนใหญ่ที่เปิดขึ้น
• นักบริหารทางการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 32.55-32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ตลาดรอติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน รายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด และบันทึกการประชุมเฟด (25-26 ก.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีก, ยอดขายบ้านมือสอง, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือน ก.ย.,ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียล ดัชนีภาวะตลาดบ้านเดือนต.ค. รวมถึงข้อมูลยอดถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของต่างชาติเดือน ส.ค. นอกจากนี้ ตลาดในประเทศอาจรอติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ของ บจ. และสัญญาณเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
• พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2551 - 2580) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ววานนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทย ที่ทุกส่วนจะต้องนำไปปฏิบัติเพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
• พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงเรื่องกฏหมายเลือกตั้งว่า จุดมุ่งหมายของการปฏิรูประบบพรรคการเมือง เพราะต้องการยกระดับมาตรฐานพรรคการเมืองสมัยใหม่ให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากกำหนดให้การจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน มีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากผู้สมัคร ส.ส. จัดตั้งสาขาพรรคในแต่ละภาคและต้องมีทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท รวมถึงการบริจาคเงินให้พรรคการเมือง ต้องไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อพรรคต่อปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันพรรคการเมืองถูกครอบงำจากนายทุนหรือกลุ่มนายทุน กระจายอำนาจให้สมาชิกมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อพรรคมากขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างศรัทธาให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อระบบพรรคการเมืองมากขึ้นด้วย
• นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เห็นชอบให้กรมการขนส่งทางบก ดำเนินโครงการสถานีขนส่งสินค้า(Truck Terminal)นำร่อง 6 แห่งคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี มุกดาหาร และหนองคาย วงเงินลงทุนราว 6,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP