• ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.5% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์และยูโร หลังจากที่มีรายงานจาก RTE News ซึ่งเป็นสื่อของทางไอร์แลนด์ที่ว่า ทางอียูอาจเสนอให้อังกฤษอยู่ในเงื่อนไขสหภาพศุลกากรได้ ขณะที่รายงานจากรอยเตอร์ส ชี้ว่า ผู้แทนเจรจาของอียูกำลังหาวิธีเพื่อให้อังกฤษสามารถทำข้อตกลงทางการค้าได้
ค่าเงินปอนด์อังกฤษปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำกว่า 1.30 ดอลลาร์/ปอนด์ ไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดหลังทราบรายงานดังกล่าวที่ 1.3044 ดอลลาร์/ปอนด์ หรือปรับขึ้นกว่า 0.6%
• นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวกับรัฐสภาอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ข้อตกลง Brexit กับทางอียูมีแนวโน้มสำเร็จ 95% และเธอได้เรียกร้องให้บรรดาส.ส. ให้การสนับสนุนเธอเป็นเป็นก้าวสุดท้ายในการที่อังกฤษจะออกจากอียูโดยสมบูรณ์
• รายงานจากรอยเตอร์ส อ้างอิงความคิดเห็นสมาชิกเฟดบางส่วน โดยระบุว่า แรงเทขายในตลาดหุ้นกว่าช่วงสามสัปดาห์อาจเป็นสัญญาณความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับการกระตุ้นทางการเงินเกี่ยวกับการปรับลดภาษีสหรัฐฯและค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่อาจจางลงจากตลาดเร็วกว่าที่คาด และอาจทำให้เฟดต้องยุติการขึ้นดอกเบี้ยได้
โดยขณะนี้ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงไปแล้วกว่า 7% โดยร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดแถวช่วงเดือนก.ค. แต่ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.นี้ได้
ขณะที่แรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการขึ้นภาษีสินค้าและผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯที่มีการดำเนินธุรกิจในจีนที่อาจทำให้เฟดต้องกลับมาพิจารณาแผนการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าและปี 2020 ได้
• Wall Street Journal รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการตำหนิประธานเฟดโดยตรงถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่จะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงด้านการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ ภายหลังจากการร่วมประชุมกับนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากรัสเซียและบรรดาประเทศในยุโรป
• เรือรบสัญชาติสหรัฐฯจำนวน 2 ลำได้เคลื่อนที่ผ่านช่องแคบในทะเลไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเคลื่อนพลผ่านพื้นที่ดังกล่าวครั้งที่ 2 สำหรับปีนี้ ท่ามกลางความไม่พึงพอใจจากประเทศจีนและอาจสร้างความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนให้เลวร้ายลงได้ เนื่องจากเปรียบเสมือนว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯให้การสนับสนุนไต้หวันซึ่งกำลังมีความขัดแย้งด้านการปกครองตนเองกับประเทศจีน
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียดำเนินการปกปิดคดีฆาตกรรมนายจามาล คาช็อคกี้ ได้อย่าง “ย่ำแย่ที่สุด” ขณะที่สหรัฐฯเตรียมยกเลิกวีซ่าสำหรับบุคคลที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
• รายงานจากสำนักงานตรวจสอบแห่งอังกฤษ ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่บรรดาผู้ประกอบการจะได้รับความเสียหาย หากการเจรจาด้านชายแดนระหว่างไอร์แลนด์ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้การเจรจา Brexit กับอียูจบลงแบบ No-deal ขณะที่บรรดาอาชญากรอาจฉวยโอกาสจากช่องว่างของชายแดนได้
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า เหลือเวลาไม่เพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหาชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเจรจา Brexit เนื่องจากอังกฤษเหลือเวลาเพียง 5 เดือนก่อนที่จะถอนตัวออกจากอียูอย่างเป็นทางการหรือในวันที่ 29 มี.ค. ปีหน้า
• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลงประมาณ 5% ทำระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือนจากแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ส่งผลให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์น้ำมัน หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียอาจทำมีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นหากจำเป็น เพื่อผ่อนคลายความกังวลที่สหรัฐฯจะใช้บทลงโทษการคว่ำบาตรต่อทางอิหร่าน
น้ำมันดิบ Brent ปิดลง -4.3% หรือ 3.39 เหรียญ ที่ระดับ 76.44 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 5% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 7 ก.ย. บริเวณ 75.88 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปิดลง 2.93 เหรียญ ที่ระดับ 66.43 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ระหว่างวันร่วงลงกว่า5.2% ทำระดับต่ำสุดที่ 65.74 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่20 ส.ค. และหากราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลุดต่ำกว่าระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 65 เหรียญ/บาร์เรล ก็มีโอกาสกระตุ้นให้ยิ่งเกิดแรงเทขายต่อเนื่องตามมาได้