• ราคาทองคำระหว่างวันค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 1,231.81 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ที่ระดับ 1,239.68 เหรียญ ท่ามกลางแรงหนุนจากความไม่มั่นคงทางการเมืองและปริมาณความต้องการทองคำในฐานะ Safe-haven
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,234.7 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความอ่อนแอในตลาดหุ้น การทำ Short covering และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งราคายังมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นไปได้อีกจากปัจจัยดังกล่าว
• นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ความอ่อนแอในตลาดหุ้นเป็นปัจจัยกดดันให้ความต้องการค่าเงินดอลลาร์บอบบางลงไป จึงไปส่งผลให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นมาได้ นอกจากนี้ ดูเหมือนค่าเงินดอลลาร์จะสูญเสียความเป็น Safe-haven ที่เกิดจากความกังวลใน Trade war ไปเสียแล้ว
• นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ระบุว่า การปรับร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ความไม่มั่นคงของระบบการค้าทั่วโลก และปัจจัยกดดันอื่นๆ ยังไม่เพียงพอที่จะกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯสูญเสียการเติบโต รวมถึงยังไม่สามารถกดดันให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แต่อย่างใด
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางสภาวะตลาดในปัจจุบัน เฟดจะจับตาไปที่ปัจจัยด้านตลาดแรงงานและแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,238 เหรียญ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,252-1,263 เหรีย
• นักวิเคราะห์จาก Adroit Financial Services คาดการณ์ว่า ราคาจะมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,210 – 1,215 เหรียญ ที่เป็นแนวต้านสำคัญเดิม ในขณะที่แนวต้านปัจจุบันขยับขึ้นมาที่บริเวณ 1,245 – 1,252 เหรียญ ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงระหว่างการเลือกตั้งกลางวาระของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความไม่ชัดเจนอย่างมาก
• ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 14.77 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 828.24 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.1% ที่ระดับ 1,139.50 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,150.50 เหรียญในช่วงตลาดก่อนหน้า
• นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 26 เม.ย. ที่ราคาทองคำสามารถปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน แม้ว่าราคาจะอ่อนตัวลงมา แต่ราคาก็ปิดได้เหนือบริเวณดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยจะเห็นได้ถึงสัญญาทองคำตลาด Comex ทำ High 1,243 เหรียญ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดแถว 1,233.2 เหรียญ และภาพรวมขยับขึ้นได้ 8.6 เหรียญวานนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 50 วันได้ ก็มีสัญญาณความเป็นไปได้ที่ระยะสั้นภาพของทองคำจะกลับเป็นขาขึ้น และหากยิ่งปิดเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันก็ยิ่งมีความเป็นไปได้และยืนยันสัญญาณการกลับเป็นเทรนขาขึ้นของทองคำ
• หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก ThinkMarkets กล่าวว่า ราคาทองคำอาจได้รับแรงหนุนจากการทำ Cover Short ครั้งใหญ่ ที่ช่วยหนุนในการฟื้นตัว และมีความเป็นไปได้ที่อาจเห็นทองคำพุ่งไปที่ 1,500 เหรียญ ขณะที่ข้อมูลจาก CFTC ทำให้เราเห็นว่าบรรดาเฮดจ์ฟันด์ มีการเริ่มต้นปรับลดสถานะ Short ในตลาด และนั่นยิ่งทำให้สัญญาณขาขึ้นของทองคำค่อนข้างแข็งแกร่ง ในเวลานี้
• นักวิเคราะห์จาก Bank of America Merrill Lynch (BAML) กล่าวว่า ตลาดทองคำได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ แต่หนึ่งในสิ่งที่ BAML มองเห็นคือความผันผวนในตลาดหุ้นที่เผชิญกับแรงกดดันให้มีการเทขายเข้ามาเพิ่มขึ้นตลอดเดือนนี้ และสภาวะเช่นนี้อาจทำให้ทองคำปรับขึ้นสู่ 1,400 เหรียญได้ในช่วงสิ้นปี 2019 ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาว
อย่างไรก็ดี ความผันผวนของตลาดหุ้นอาจเปลี่ย
นทิศทางการเคลื่อนไหว ขณะที่ดัชนี VIX ดูมีความผันผวนเพิ่มมาขึ้น และในท้ายที่สุดปัจจัยข้างต้นนี้ก็อาจทำให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป