MTS Help Center

·         ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนทำการปิดสถานะทำกำไรจากการที่ราคาทะยานขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 3 เดือนเมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลงมาบ้างประมาณ 0.2% ที่ระดับ 1,228.06 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดขยับลงประมาณ 0.5% ที่ระดับ 1,231.1 เหรียญ แต่ภาพรวมราคาทองคำก็ยังได้รับแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยจากการที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักต่อเนื่อง 5 วันทำการ

·         ขณะที่วันอังคารที่ผ่านมาแรงเทขายในตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นได้ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 17 ก.ค. ที่ 1,239.68 เหรียญ

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเข้าซื้อทองคำ 1.76 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 749.64 ตัน

·         ดัชนีดอลลาร์เมื่อคืนรีบาวน์กลับได้ประมาณ 0.4% และไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 17 ส.ค.ที่ 96.53 จุด

·         นักวิเคราะห์จาก Julius Baer กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ทองคำมีการย่อตัวลงมาเมื่อคืนนี้ เป็นผลมาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์กลับมา แต่ภาพรวมทองคำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาค่อนข้างแข็งแกร่ง และก็อาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างเล็กน้อยแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การฟื้นตัวของทองคำสิ้นสุดลง

·         นักวิเคราะห์จาก Forex Live มองว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้เรามีโอกาสเห็นทองคำขึ้นต่อ โดยหากทองคำ Break ขึ้นเหนือ 1,234 เหรียญได้ ก็มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดแรงเข้าซื้อเพิ่มและทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นต่อไปแถว 1,265 เหรียญ

·         หัวหน้าฝ่ายนักวิเคราะห์จาก ActivTrades กล่าวว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนได้ ก็มีการอ่อนตัวลงมาบ้างแต่สภาวะโดยรวมยังเป็นขาขึ้น และมีโอกาสเห็นนักลงทุนให้ความสนใจกับราคาทองคำในขณะนี้ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้น

·         ราคาตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัวหลังจากที่ราคาร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยได้รับผลกระทบจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมทั้งความกังวลเรื่องแผนงบประมาณของอิตาลีและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

·         นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ราคาทองคำให้ความสนใจกับภาวะความผันผวนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะผลสะท้อนจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกในเวลานี้

·         รองผู้ช่วยประธานนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก SMC Comtrade Ltd. กล่าวว่า หากทองคำมีการปรับฐาน แนวรับที่ดีจะอยู่บริเวณ 1,210 เหรียญ ซึ่งทั้งนี้ หากราคาหลุดลงมามีโอกาสเห็นราคากลับสู่ 1,195 เหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างน้อยมากทีจะเกิดขึ้นในขณะนี้

·         ผลประกอบการบริษัทฯ Barrick Gold Corp ปรับตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาทองคำและทองแดง ในขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้ผลกำไรสุทธิในช่วงสิ้นวันที่ 30 ก.ย. อยู่ที่ระดับ 89 ล้านเหรียญ หรือ 8 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วที่มีผลประกอบการสูงถึง 200 ล้านเหรียญ หรือ 17 เซนต์/หุ้น

·         ราคาพลาเดียมปิดลง 1% ที่ระดับ 1,129.2 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำ All-time High อย่างต่อเนื่องที่ 1,150.5 เหรียญ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของภาวะอุปทาน และการให้ความสนใจครั้งใหม่ของกลุ่มนักลงทุน

·         ราคาซิลเวอร์ปิด -0.5% ที่ระดับ 14.66 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.9% ที่ระดับ 823 เหรียญ