หลังจากที่ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดของปีก็มีสัญญาณความเป็นไปได้ที่เกิดการฟื้นตัวในระยะกลาง โดยราคาทองคำมีการซื้อขายเป็นลักษณะ Sideways ในช่วงเกือบ 2 เดือน แต่ก็สามารถ Break กรอบราคาระหว่าง 1,180 – 1,215 เหรียญขึ้นมาได้ โดยไปทำสูงสุดสัปดาห์ที่แล้ว 1,234 เหรียญ และก็เกิดคำถามตามมาว่าจะไปต่อได้หรือยัง?
ทีมนักวิเคราะห์จาก ADSS Research Team เชื่อว่า มีโอกาสจะเห็นทองคำขึ้นได้ต่อ และมี 2-3 เหตุผลที่สนับสนุนปัจจัยการขยับขึ้นของราคาในครั้งนี้ ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค
สำหรับมุมมองทางด้านพื้นฐาน มาจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีการปรับอ่อนค่าลงและทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น คาดการณ์อ่อนตัวลงของเงินเฟ้อ, การชะลอตัวของค่าใช้จ่ายผู้บริโภค และปัญหายอดขาดดุล ที่ทำให้ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากระดับสูงสุดของปี และอาจเห็นในระยะกลางมีการปรับฐานลงมาในทิศทางอ่อนค่า
ขณะที่ผลสะท้อนอีกประการมาจากการที่สถาบันการเงินมีการลดการถือครองสถานะ Short ในตลาดทองคำ อ้างอิงจากข้อมูลของ Bloomberg ระบุว่า นักลงทุนมีการเข้าซื้อเพิ่มเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้กว่า 65,000 คู่สัญญา และมีการลดการถือครองสถานะ Short ในตลาดลงประมาณ 50% จึงทำให้เห็นถึงการเปิดสถานะ Long ในตลาดเพิ่ม 45,000 คู่สัญญา
สำหรับภาพทางเทคนิคนั้น จากชาร์ตทองคำในระยะกลางและระยะยาวจะเห็นว่าราคาทองคำมีการทำ Higher Low จากแถว 1,182 เหรียญ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดเดิมเมื่อช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ 1,160 เหรียญ จึงบ่งชี้ว่าราคาทองคำระยะกลางมีการยกจุดต่ำสุดและมีโอกาสเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามได้
ทั้งนี้ การที่ราคายืนเหนือ 1,215 เหรียญซึ่งเป็นระดับแนวต้านขึ้นมาได้ ถือเป็นการสร้างภาพในทิศทางขาขึ้น ผสมผสานกับการเปลี่ยนการถือครองสถานะของนักลงทุน ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นตัวเสริม ท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์และจีดีพีสหรัฐฯที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อในไตรมาสที่ 4/2018
อย่างไรก็ดี ในอีกไม่สัปดาห์ข้างหน้าหรือภาพระยะยาวของเรามองว่า หากทองคำ Break เหนือ 1,234 เหรียญได้ ก็มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดแรงเข้าซื้อและผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแถว 1,265 เหรียญ
ที่มา: Forex Live