ท่ามกลางภาวะ Trade war ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำลังระอุอยู่ในปัจจุบัน บรรดาประเทศในเอเชียที่พึ่งพาเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และออสเตรเลีย ซึ่งล้วนแต่เป็นคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ต่างเริ่มปรับกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจเข้าหาประเทศอินเดียมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เป็นเพราะว่าสินค้าส่วนใหญ่ในทวีปเอเชียต่างมีสายการผลิตอยู่ในประเทศจีน ดังนั้น หากเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจาก Trade war กระแสการผลิตสินค้าเกือบทั้งหมดในเอเชียก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง
Termsak Chalermpalanupap หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ระบุว่า การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจเข้าหาประเทศอินเดียสำหรับบรรดาประเทศในเอเชียด้วยกันเอง เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลออสเตรเรียได้เคยประกาศแผน "India Economic Strategy" เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการค้าร่วมกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และร่วมผลักดันให้อินเดียกลายเป็นแหล่งลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของเอเชีย ภายในปี 2035
ทางด้านเกาหลีใต้ เมื่อช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยร่างนโยบายที่เรียกว่า "Southern Policy" ซึ่งจะขยายความสัมพันธ์ทางการค้าของเกาหลีใต้ร่วมกับบรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น แม้เกาหลีใต้จะไม่ได้อยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ตามหลักภูมิศาสตร์ก็ตาม ซึ่งเกาหลีใต้ได้ระบุว่าอินเดียจะกลายเป็ย “คู่ค้าสำคัญ” ภายใต้นโยบายดังกล่าว
ขณะที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะมีแผนเดินทางเยือนอินเดียภายในสัปดาห์หน้า และทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็เคยวางแผนนโยบายเศรษฐกิจที่จะผลักดันให้อินเดียกลายเป็นเสาหลักในการผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและแอฟริกาใต้ ซึ่งเคยประกาศไปเมื่อปี 2016 ก่อนหน้าที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารับตำแหน่งเสียอีก