· ตลาดหุ้นเอเชียปิดร่วงลงวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิต Semicondutor และหุ้นเทคโนโลยีที่ร่วงตามแรงเทขายเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิก็ยังคงปิด -3.7% ที่ระดับ 21,267.18 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด -1.4% ที่ระดับ 2,567.92 จุด และดัชนี HSI ของฮ่องกงปิด -2.1% ที่ระดับ 24,721.31 จุด
จากแรงเทขายที่เข้ามาอย่างหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของตลาดสหรัฐฯในคืนวานนี้ส่งผลให้หุ้นผู้ผลิต Semiconductor อย่าง Tokyo Electron ปิด -4% ทางด้าน Taiwan Semiconductor Manufacturing Co ร่วง -4.4% และ Samsung Electronicsร่วง -3.8% และกลุ่มสื่อสาร รวมทั้งพลังงาน และ Softbank ปิดลง 4.1%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องมาจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 3.7% ที่ระดับ 21,268.73 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.
· รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงว่า ส่วนใหญ่เป็นหุ้นน้ำมัน ซึ่งตอนที่น้ำมันขึ้นหุ้นก็ขึ้น ตอนน้ำมันลงหุ้นก็เลยลง แต่ไม่อยากให้นักลงทุนไปตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ เพราะอย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาด Safe Haven เมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมด พร้อมกันนี้ เขายังเตรียมชงมาตรการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปีเข้าสู่ครม. ภายในเดือนนี้ และสั่งคลังเร่งดันภาษีที่ดินฯ รับอาจไม่ทันใช้ในปีหน้า
· บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ไตรมาสที่ 3/2561 มีกำไรสุทธิ 10,401.18 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 8,681.60 ล้านบาท งวด 9 เดือน ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 27,372.17 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11,138.15 ล้านบาท รักษาปริมาณขายเฉลี่ยปีนี้ที่ 310,000 บาร์เรล คาด Q4/61 ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบยังมีความผันผวนสูง
· DTAC คาด 3-5 ปีนี้ จะเห็นสตาร์ทอัพเข้าตลาดหุ้น 2-3 บริษัท