• ดัชนีดาวโจนส์ปิด 401.13 จุด คิดเป็น +1.63% ที่ระดับ 24,984.55 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +1.86% ที่ระดับ 2,705.57 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +2.95% ที่ระดับ 7,318.34 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้น โดยดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้นระดับวันมากที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทไมโครซอฟต์ปรับตัวขึ้นที่ช่วยทำให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีมีการีบาวน์ ซึ่งการปรับขึ้นของดัชนีNasdaq ปรับขึ้น 3% จึงช่วยยืนยันถึงการปรับฐานที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการปรับตัวลงไปมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011
• กรรมการผู้จัดการด้านค่าเงินจาก BK Asset Management กล่าวว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกอาจดำเนินไปช่วง 2-3 สัปดาห์ แต่ดูภาพรวมเหมือนตลาดหุ้นเอเชียจะมีความผันผวนมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากแนวโน้มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ดูมีแนวโน้มอ่อนตัวมากกว่าสหรัฐฯ โดยจะเห็นได้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เกิดขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากสภาพเศรษฐกิจที่มีการแข็งแกร่ง
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานตามการรีบาวน์ของหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.64% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด +0.65% สำหรับดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.51%
• นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์