MTS Help Center

• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่บริเวณ 96.41 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์อ่อนค่า 0.2% บริเวณ 112.19 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่งหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯสามารถรีบาวน์ขึ้นมาเมื่อคืนนี้ได้

อย่างไรก็ตาม มุมมองในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงอยู่ในระดับอ่อนแอ เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียและอนุพันธ์ซื้อขายหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าในวันนี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ

ทางด้านค่าเงินหยวนปรับแข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่บริเวณ 6.9623 หยวน/ดอลลาร์ หลังธนาคารกลางแห่งประเทศจีนปรับค่ากลางเงินหยวนสู่ระดับ 6.9510 หยวน/ดอลลาร์ จากของเดิมเมื่อวานนี้ที่ระดับ 6.9409 หยวน/ดอลลาร์

• นายฟิลลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งอังกฤษ มีแนวโน้มจะเตือนรัฐสภาว่า การเจรจา Brexit แบบ No-deal จะสร้างผลกระทบต่อระบบการเงินสาธารณะ ในการรายงานต่อรัฐสภาประจำปีที่จะเกิดขึ้นนสัปดาห์หน้า

• ผลสำรวจโดยสถาบัน GfK คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวในเดือน พ.ย. ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและรายได้เฉลี่ยอาจปรับตัวลดลงท่ามกลางแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศและการเจรจา Brexit

ทั้งนี้ ดัชนีวัดแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยสถาบัน GfK ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 10.6 จุดในเดือน ต.ค. มากกว่าคาดการณ์ของ Reuters ที่ระดับ 10.5 จุด

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและจีน กำลังเข้าสู่ “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์” หลังการประชุมกับจีน เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางการของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งนายอาเบะคาดหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆในภาคโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง ประกันสุขภาพ และการเงิน

• จีนและญี่ปุ่นร่วมลงนามในสนธิสัญญาทางการค้าที่จะเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงให้สัญญาว่าจะร่วมมือกันในการพัฒนาระบบการเงิน นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

การร่วมลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำญี่ปุ่นในรอบกว่า 7 ปี

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจาก ซาอุดีอาระเบียเตือนว่าปริมาณอุปทานมากเกินไป ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นโลกที่ร่วงลงและประเด็นทางการค้าที่กดดันความต้องการน้ำมัน

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ลดลง 0.6% ที่ระดับ 76.40 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.9% ที่ระดับ 66.74 เหรียญ/บาร์เรล

• นักวิเคราะห์จาก DailyFX มองว่า ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น ขณะนี้อยู่บริเวณ 66.87 - 68.74 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่แรงเทขายที่เข้ามาทำให้ราคาน้ำมันดูจะมีราคาเป้าหมายอยู่แถว 64.45 - 64.26 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งหากปิดต่ำกว่าลงมามีโอกาสที่จะกลับไปทดสอบ 61.84 เหรียญ/บาร์เรล ในทางกลับกัน หากราคาสามารถยืนเหนือ 68.74 เหรียญ/บาร์เรลได้ ก็มีโอกาสเห็นราคาขึ้นไปแถว 70.05 - 70.26 เหรียญ/บาร์เรล