• Kitco | นักวิเคราะห์มองทองได้รับแรงหนุนจากการปรับฐานของตลาดหุ้น!

    29 ตุลาคม 2561 | Gold News
 

มุมมองทิศทางทองคำจาก Kitco

การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเมื่อไม่นานมานี้มาจากการร่วงลงของตลาดหุ้น ที่นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ฉุดให้ดัชนี Nasdaq ร่วงลงระดับรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงรายเดือนมากที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ S&P 500ร่วงลงรายเดือนมากที่สุดในรอบ 7 ปี

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก City Index ระบุว่า สภาวะ Risk-Off ที่เกิดขึ้น มาจากการที่นักลงทุนพากันย้ายเม็ดเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นและเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย และนั่นทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco ระบุว่า การอ่อนตัวของตลาดหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นและมีโอกาสเห็นทองคำยังคงมีแนวโน้มขึ้นได้ต่อตราบเท่าที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน

นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก DailyFX มองว่า ระยะสั้นทางเทคนิคของทองคำยังเป็นขาลงจึงยิ่งหนุนภาวะการปรับขึ้นของราคาทองคำขณะนี้ได้

นักวิเคราะห์บางคน กล่าวว่า มีโอกาสเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อระยะสั้น แต่เขาก็อยากให้นักลงทุนได้ระมัดระวังต่อการลงทุนที่ยังจำกัด เนื่องจากตลาดค่อนข้างเคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็ว ตามการเทขายที่เข้ามาในตลาดหุ้น และเกิดการเข้าซื้อในทองคำ

ประธานโบรกเกอร์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า แม้ว่าทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะสั้นแต่นักลงทุนก็ควรระมัดระวังต่อระดับดังกล่าว เพราะถึงแม้ทองคำจะมีกำลังซื้อจากแถวระดับ 1,200 เหรียญ แต่ก็อาจเผชิญแรงเทขายทำกำไรให้กลับลงมาได้เช่นกัน

การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.

อีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวเตือนนักลงทุนในตลาดทองคำ เนื่องจากเร็วๆนี้ตลาดอาจเริ่มเตรียมรับกับสิ่งที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

จากข้อมูลย้อนหลังจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำจะได้รับผลกระทบก่อนที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ควบคู่กับที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้น และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และในปัจจุบันตลาดยังมองโอกาสที่ 67ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. โดยลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 80%

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Capital Economics กล่าวว่า กระแสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจกลับสู่ตลาดอีกครั้ง และเมื่อนั้นจะกลายเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันทองคำ ประกอบกับการรอรายงานการประกาศการจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯประจำเดือนต.ค. คืนวันศุกร์นี้ ซึ่งหากเป็นดังที่คาด และรายงานจ้างงานสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง ก็อาจทำให้ทองคำอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดได้

แม้ว่าคาดการณ์จะออกมาแข็งแกร่งและยิ่งหนุนการขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ไม่คิดว่า นี่จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดทองคำ

ขณะที่เหล่าเทรดเดอร์ทองคำต่างรูว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย แต่เฟดก็ดูมีท่าคุมเข้มลดน้อยลง เพราะถึงเฟดจะสื่อในเชิงคุมเข้มทางการเงินแต่เฟดก็เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะแข็งแกร่ง แต่ก็เริ่มอ่อนตัว

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสที่ 3 ที่ประกาศเมื่อคืนวันศุกร์ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ได้ เนื่องจากยังเติบโตได้ที่ 3.5% แต่ก็ต้องระวังถึงสัญญาณการเติบโต

โดยจะเห็นได้ว่า การลงทุนในภาคธุรกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 4% อันเป็นผลมาจากตลาดที่อยู่อาศัย ขณะที่ยอดส่งออกปรับตัวลงท่ามกลางยอดนำเข้าที่ขยายตัว และทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส กล่าวว่า ภาพรวม นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังเป็นประเด็นหลักที่สนับสนุนการขยายตัวของจีดีพีในตอนนี้ แต่การขยายตัวดังกล่าวก็ดูจะเริ่มเลือนรางลงไป ประกอบกับการขึ้นดอกเบี้ยที่ดูจะสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจีดีพีสหรัฐฯมีแนวโน้มจะชะลอตัวต่ำกว่า 2ในปีหน้า และอาจทำให้เฟดต้องยุติการขึ้นดอกเบี้ยประมาณช่วงกลางปี 2019 เร็วกว่าที่บรรดาตลาดการเงินหรือเฟดได้ทำการคาดการณ์เอาไว้

ระดับสำคัญของทองคำ

บรรดานักวิเคราะห์มองไปในทางเดียวกันว่า ระยะสั้นทองคำมีแนวโน้มจะกลับขึ้นแตะ 1,260 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเดือนก.ค.ได้ และหากฝ่าไปได้มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1,300 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายอีกครั้ง

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. และการจ้างงานภาคเอกชนคืนวันพุธ รวมไปถึงข้อมูลความเชื่อมั่นภาคการผลิต ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์จะมีข้อมูลการจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯ

ที่มา: Kitco

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com