• รายงานจากรอยเตอร์ ระบุว่า การฟื้นตัวของรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งล่าสุดของสหรัฐฯและยุโรปได้ช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก และผลักดันให้เกิดความต้องการของกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น แม้ว่าข้อมูลภาคการผลิตจีนจะชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี แต่นักลงทุนก็หันเข้าถือครองดอลลาร์ทำให้กลับมาแข็งค่าทำระดับสูงสุดรอบ 16 เดือน ขณะที่กดดันค่าเงินหยวนให้อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 22 เดือน ขณะที่เดือนต.ค. อาจเรียกได้ว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 241.12 จุด คิดเป็น +0.97% ที่ระดับ 25,115.76 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +1.09% ที่ระดับ 2,711.74 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +2.01% ที่ระดับ 7,305.9 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนรีบาวน์กลับได้เป็นวันที่สองจากการที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตได้รับแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนและความแข็งแกร่งของผลประกอบการภาคบริษัทฯ แต่ภาพรวมของดัชนี S&P500 ก็ดูจะปิดรายเดือนได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี
ในเดือน ต.ค. ดัชนี S&P500 ปิด -6.9% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดลง 9.2% ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2008
สำหรัดัชนีดาวโจนส์ปิดรายเดือนที่ -5.1% ซึ่งเป็นอัตราการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2016
• ดัชนี VIX ซึ่งเป็นมาตรวัดความผันผวนของตลาดระยะสั้นมีการปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 ต.ค.
• ดัชนี MSCI ที่รวมหุ้นหลัก 47 ประเทศปิด +1.3% แต่ภาพรวมเดือนต.ค. ร่วงลงไป -7.3% ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 และดูเหมือนจะลงไปแล้วกว่า 11% จากที่ทำ All Time Highไว้เมื่อเดือนม.ค.
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในชั่วโมงทำการแรกของเดือนพ.ย. หลังจากที่ร่วงลงหนักในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาทั่วทั้งภูมิภาค โดยที่ดัชนีนิกเกอิเปิดร่วงลงแดนลบ โดยเปิดมาที่ -0.72% ขณะที่ Topix เปิด -0.57%ขณะที่ดัชนี ASX200 เปิด +0.28% ขณะที่ดัชนี Kospi เปิด +0.42%
• นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10 - 33.20 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าตั้งแต่ ธปท.ประกาศตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด ขณะที่แรงเข้าซื้อดอลลาร์เบาบางลง จึงเป็นปัจจัยช่วยหนุนค่าเงินบาท
• ธปท. แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินในเดือน ก.ย. และไตรมาส 3 ปี 2561 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย.61 ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน โดยอุปสงค์ในประเทศขยายตัวตามการบริโภคภาคเอกชนในเกือบทุกหมวดสินค้า และการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนทรงตัว ด้านอุปสงค์ต่างประเทศขยายตัวชะลอลงตามการส่งออกสินค้าที่หดตัว สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวเล็กน้อยจากนักท่องเที่ยวอาเซียนเป็นสำคัญ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงตามราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจากเดือนก่อน ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นตามการลดลงของการนำเข้าทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิ