· วิเคราะห์ดัชนี S&P 500 ทางเทคนิค : ดัชนีปิดบวกเหนือระดับ 2,700 จุด
ดัชนี S&P 500 สามารถรีบาวน์กลับขึ้นปิดมาตลาดเมื่อคืนนี้เหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน หรือที่ระดับ 2,700 จุด ได้ นักวิเคราะห์จาก FX Street จึงประเมินว่าเป้าหมายถึดไปของดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 2,763.50 จุด และ 2,800.00 จุด ขณะที่สัญญานจากIndicators บางตัวเริ่มกลับเข้าสู่เชิงบวก แต่ยังคงไม่เป็นสัญญาณของขาขึ้นอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม หากดัชนีย่อตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 2,700 จุด สัญญาณของทิศทางขาขึ้นก็อาจอ่อนกำลังลง
แนวต้าน: 2763.50, 2800.00, 2834.25
แนวรับ: 2718.75, 2700.00, 2647.25
· ตลาดหุ้นเอเชียปิดปรับขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงจากรายงานที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีท่าทีจะการแก้ไขปัญหาผลกระทบจาก Trade War ร่วมกับทางจีนที่กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้
ดัชนี MSCI ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้น 2.7% หลังไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 10 ต.ค. ส่งผลให้ภาพรวมตลาดปิดสัปดาห์นี้ปรับขึ้น 6.4% และทำให้ภาพรวมรายสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 3 ปี
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด +3.5% ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะที่ดัชนี HSI ของฮ่องกงปิดปรับขึ้น 3.6%
ทางด้าน ดัชนีนิกเกอิปิด +2.6% และดัชนี E-mini S&P500 ปิด +0.7%
สำหรับตลาดหุ้นปิดบวกขึ้นตาม โดยจะเห็นได้จากหุ้น FTSE ของอังกฤษปิดปรับขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้น CAC ของฝรั่งเศส และ DAX ของเยอรมนีปรับขึ้น 1%
ขณะเดียวกันหุ้น Blue-Chips ของจีนปรับขึ้น 3.3% ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินหยวนด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ MSCI ของจีนก็ปิดได้ +7.9% ส่งผลให้ภาพรวม MSCI ทั่วโลกปิด +3.5%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกด้วยผลประกอบการรายวันที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ในเดือน มี.ค. นำโดยบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจร่วมกับประเทศจีนเป็นหลักอย่าง Yaskawa และ Fanuc ท่ามกลางความหวังภาวะ Trade war ระหว่างสหรัฐฯและจีน อาจผ่อนคลายลงไป โดยดัชนี Nikkei ปิด +2.6% ที่ระดับ 22,243.66 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีปิด +5% ซึ่งเป็นผลประกอบการรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2016