MTS Help Center

·         ราคาทองคำปรับตัวลงท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับแข็งค่าขึ้น จากข้อมูลการจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯที่ออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์

ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลง 0.2% ที่ระดับ 1,231.22 เหรียญ ทางด้านราคาทองคำรายสัปดาห์ปรับลง 0.1% และสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. คืนวันศุกร์ปิดลง 5.3 เหรียญ คิดเป็น -0.43% ที่ระดับ 1,233.3 เหรียญ

·         กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำการขายทองคำออก 1.76 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 759.06 ตัน

·         รายงานผลสำรวจส่วนใหญ่จาก Kitco ชี้ว่า กลุ่มนักลงทุนกว่า 53% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำกว่า 57% มองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ

·         นักวิเคราะห์อาวุโสฝ่ายการตลาดจาก Price Futures Group มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สภาวะ Risk-On กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯและจีนจะหาข้อตกลงทางการค้าได้  ขณะที่ดอลลาร์ยังคงอยู่ในระดับสูง เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. อย่างน้อย 70%

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการป้องกันความเสี่ยงจาก Walsh Trading แสดงความคิดเห็นว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เทรดเดอร์หลายคนคิดเห็นว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาน่าจะเป็นลบ โดยมองว่า พรรคเดโมแครตจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสมากกว่าพรรครีพับลิกันและนั่นอาจช่วยหนุนทิศทางราคาทองคำได้

·         ฝ่ายบริหารจาก Adrian Day Asset Management กล่าวว่า ณ ขณะนี้ต้องจับตาไปยังผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯเป็นสำคัญ โดยหากพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในสภา ก็มีโอกาสเห็นดอลลาร์แข็งและเป็นผลลบต่อราคาทองคำระยะสั้นๆ

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก Kitco Metals กล่าวว่า ระยะสั้นทิศทางทองคำ อาจแกว่งตัวตามการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางทองคำ โดยหากที่พรรครีพับลิกันได้คะแนนเสียงข้างมาก ก็ดูจะส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงได้ แต่หากพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมาก เราก็อาจะเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้

·         ประธานจาก Phoenix Futures and Options LLC กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะเคลื่อนไหวได้ในกรอบระหว่าง 1,213 – 1,246 เหรียญ และเขาคิดเห็นว่าทองคำจะไม่สามารถกลับเป็นขาขึ้นได้จนกว่าจะ Break เส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 38% ที่ระดับ 1,253 เหรียญ

·         หัวหน้านักวิเคราะห์ทองคำจาก BMO กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งได้ช่วยหนุนดอลลาร์และกดดันทองคำ และการที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนถึงโอกาสที่เฟดยังคงมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้ แต่เราก็มีโอกาสเห็นทองคำกลับแถว 1,240 – 1,245 เหรียญได้ หากดอลลาร์ปรับร่วงลงมาอีกครั้ง

·         ความต้องการทองคำในอินเดียซึ่งถือเป็นประเทศที่มีการนำเข้าทองคำรายใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลกชะลอตัวลงนับเป็นครั้งแรกในช่วง 3 ปีก่อนเข้าสู่เทศกาลที่ความต้องการลดน้อยลง อันเป็นผลมาจากการปรับขึ้นขของราคาเมื่อไม่นานมานี้ได้ลดความต้องการการเข้าถือครองทองคำ

·         ราคาแพลทินัมปรับขึ้น +1.3% ที่ 868 เหรียญ หลังแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 25 มิ.ย. ที่ 870.8 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด +1.8% ที่ระดับ 1,110 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปิด -0.2% ที่ 14.7 เหรียญ