• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561

    6 พฤศจิกายน 2561 | SET News

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 190.87 จุด คิดเป็น +0.76% ที่ 25,461.7 จุด และดัชนี S&P 500 ปิด +0.56% ที่ระดับ 2,738.31 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -0.38% ที่ 7,328.85 จุด

ดัชนี S&P 500 ปิดบวกเพราะได้รับอานิสงส์จากหุ้นกลุ่มการเงิน ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงิน, หุ้นพลังงาน และหุ้นกลุ่ม Defensive อาทิ อสังหาริมทรัพย์, การอุปโภคบริหาร และกลุ่มผู้บริโภค โดยได้รับอานิสงส์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวลง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนบางส่วนที่เริ่มระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการเลือกตั้งสภาคองเกรส

นอกจากนี้ ตลาดยังรอการประชุมเฟดในระหว่าง 7-8 พ.ย.นี้ ด้วยเพื่อจับตาดูแนวโน้มการดำเนินนโยบายของเฟด โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง อย่างเช่น รายงานการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

• รายงานจาก IBES เผยว่า ผลประกอบการของภาคบริษัทใน S&P 500 ไตรมาสที่ 3 ขยายตัวได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 โดยผลประกอบการณ์ออกมาดีขึ้นเกินคาดและทำให้ประมาณการณ์ไตรมาสที่ 3 ขยายตัวได้ 27.4% จากที่คาดไว้ที่ 21.6% เมื่อวันที่ 1 ต.ค.

• ตลาดหุ้นยุโรปยังปราศจากทิศทางที่ชัดเจน โดยดัชนียังคงปิดผสมผสานกันจากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ต่างกั

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.09% ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มต่างๆที่แตกต่างกัน นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงไป -1.5% ขณะที่หุ้นน้ำมันและแก๊สปิดปรับขึ้น +1.5%

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นในเช้านี้ตามดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดปรับขึ้นเกือบ 200 จุดก่อนเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.85% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด +0.86% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.26%

• นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 32.85-33.05 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจะจับตาการเลือกตั้งกลางวาระของสหรัฐฯในคืนนี้ แต่น่าจะทราบผลในวันที่ 7 พ.ย.

• ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค.61 อยู่ที่ 81.3 จาก 82.3 ในเดือน ก.ย.61 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากความกังวลสงครามการค้าและนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง

สำหรับในปี 2562 ม.หอการค้าไทย ยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับ 4.3-4.5% แต่หากสถานการณ์สงครามการค้ามีความยืดเยื้อ ก็อาจจะมีผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าขยายตัวเหลือ 4.0-4.2% และหากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ย.ปรับลดลงต่อ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนมุมมองไปเป็นขาลงได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com