MTS Help Center

• ราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวลดลง 0.3% แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ระดับ 1,221.1 เหรียญ ก่อนที่จะปรับขึ้นมาทรงตัวบริเวณ 1,222.31 เหรียญ ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตลาดจะจับตาดูการประชุมเฟดในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางต่อไปของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,226.3 เหรียญ

• นักวิเคราะห์จาก DailyFX คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงการประชุมในเดือน ธ.ค. ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยในข่วงเวลาดังกล่าวเป็นที่คาดการณ์อย่างทั่วถึงแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ตลาดจะจับตาคือสัญญาณของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 ซึ่งหากมีสัญญาณว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ราคาทองคำก็อาจเผชิญแรงกดดันลงมาได้

ทั้งนี้ เฟดได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และได้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2019 และอีก 1 ครั้งในปี 2020 หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง

• นักวิเคราะห์จาก Lee Cheong Gold Dealers ระบุว่า ราคาทองคำวันนี้ถูกกดดันลงมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น

โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาได้ 0.2% หลังจากอ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในช่วงตลาดก่อนหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ หลังตลาดผ่อนคลายความกังวลจากการเลือกตั้งกลางวาระ

• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ได้ลดการถือครองทองคำลง 0.19% สู่ระดับ 755.23 ตัน ซึ่งเป็นการขายออกติดต่อกันเป็นวันที่ 4

• นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP ประเมินว่า แนวรับถัดไปของราคาทองคำจะอยู่ที่บริเวณ 1,216 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน หากราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ จำเป็นต้องผ่านแนวต้านสำคัญทางเทคนิคที่ระดับ 1,235 เหรียญไปให้ได้เสียก่อน

• สำหรับราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.5% บริเวณ 14.50 เหรียญ

ด้านราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.5% บริเวณ 1,127.55 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ สัปดาห์ที่ระดับ 1,139.50 เหรียญในช่วงตลาดก่อนหน้า

ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับลดลง 0.2% บริเวณ 870.60 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดของวันที่ 25 มิ.ย. ที่ระดับ 877.50 เหรียญเมื่อวานนี้