• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึเน ท่ามกลางความไม่แน่นทางการเมื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตของอังกฤษและสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.4% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
• ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานกัน ท่ามกลางสัญญาณความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่เฟดกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวทรงตัวท่ามกลางตลาดที่ค่อนข้างซบเซา
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก ท่ามกลางการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับชิบประมวลผล จึงช่วยทดแทนการปรับลดลงของหุ้นในกลุ่มการเงินที่ได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับลดลงได้ โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.7% ที่ระดับ 21,821.16 จุด โดยในช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวลดลงมาเกือบ 2.6% ท่ามกลางแรงกดดันจากราคาน้ำมันและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลง
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ได้รับแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนตลาดที่อ่อนแอและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวสูงขึ้น 0.22% ที่ระดับบ 2,685.10 จุด
• สภาพัฒน์ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวได้ 4.2% หรืออยู่ในกรอบ 3.5-4.5% โดยได้รับแรงหนุนจาก 1.การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี และสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง 2. การปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนรวม โดยการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง 3. การปรับตัวดีขึ้นของภาคการท่องเที่ยว 4. การขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกที่สามารถสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง และ 5.การเปลี่ยนแปลงทิศทางการค้า การผลิตและการลงทุนระหว่างประเทศ