• ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงเมื่อวานนี้ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ปรับตัวลง ประกอบกับหุ้นบริษัท Facebook และ Apple ที่ปิดแดนลบวานนี้ด้วย
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 395.78 จุด ที่ระดับ 25,017.44 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -1.7% ที่ 2,690.73 จุด จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงกว่า 3.8% ทางด้านดัชนีNasdaq ก็ปิดลงอย่างหนักกว่า 3% ที่ 7,028.48 จุด โดยถูกฉุดจากหุ้นบริษัท Amazon ด้วยที่ร่วงลงมา 5.1%
หุ้นบริษัท Apple ร่วงจึงนำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงตาม หลังมีรายงานจาก Wall Street Journal ที่ระดับว่า ทางบริษัทฯมีการปรับลดคำสั่งผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดเผยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้หุ้น Apple ร่วงลงเกือบ 4% และฉุดตลาดให้เป็นขาลงอีกครั้ง หรือปรับลงแล้วกว่า 20% จากระดับสูงสุดรอบ 52 สัปดาห์
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลงวานนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและอียูในอนาคต รวมทั้งการร่วงลงของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ จึงทำให้ดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.74%
• บริษัทนิสสันซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ในญี่ปุ่นเปิดตลาดมาหุ้นร่วง 5.5% หลังมีข่าวว่า นายคาร์ลอส กอส์น ประธานบริหารถูกจับกุมเมื่อวานนี้จากข้อกล่าวหาประพฤติผิดทางการเงิน
ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด -0.95% ขณะที่ดัชนี Topix ปิด -0.75% ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.77%
• นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบเดิมของเมื่อวานนี้ระหว่าง 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์ ส่วนเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทผันผวนหลังตัวเลขจีดีพีช่วงไตรมาส3 ของปีนี้ออกมาแย่กว่าที่คาด แต่การบริโภคภายในประเทศและการลงทุนยังขยายตัวได้ดี ส่วนที่มีปัญหามาจากการชะลอตัวด้านการท่องเที่ยวและการส่งออก
สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/61 ขยายตัว 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 4.6% เป็นไปตามอุปสงค์ภาคต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่สภาพัฒน์ ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยทั้งปี 61 มาที่เติบโต 4.2% หรืออยู่ที่กรอบล่างของคาดการณ์เดิมที่ 4.2-4.7% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวเหลือเพียง 7.2% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 10% ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะเติบโต 16.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 15.4%
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 จะกลับมาขยายตัวสูงกว่าในไตรมาส 3 ที่มีผลของปัจจัยชั่วคราว