• ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการปรับร่วงลงอีกครั้งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับร่วงลงอย่างหนัก
โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -178.74 จุด ที่ระดับ 24,285.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด -0.65% ที่ระดับ 2,632.56 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.5% ที่ระดับ 6,938.98 จุด โดนดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 มีผลประกอบการในช่วง Black Friday ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 ขณะที่ดัชนี Nasdaq มีผลประกอบการในช่วง Black Friday ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ทั้ง 3 ดัชนีต่างปรับร่วงลงมามากกว่า 3% ซึ่งยังเป็นการปรับร่วงลงในช่วงสัปดาห์ของวันขอบคุณพระเจ้าที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสาน ท่ามกลางแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี Nikkei เปิด -0.16% ขณะที่ดัชนี Kospi เปิด +0.32%
• นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับนี้ไว้ที่ระหว่าง 32.80-33.20 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดอาจรอติดตามผลการหารือนอกรอบการประชุม G20 ในประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน, ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และผลการประชุมสุดยอดของผู้นำอียูในประเด็นเรื่องข้อตกลง BREXIT