ผลสำรวจโดย Kitco ที่สอบถามความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วไปเกี่ยวกับทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ พบว่าจากนักวิเคราะห์ทั้งหมด 16 คน มี 8 คน หรือคิดเป็น 50% มองว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่อีก 3 คน หรือ 19% มองว่าราคาจะปรับลดลง และอีก 5 คน หรือ 31% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหว Sideways
ขณะที่บรรดานักลงทุนทั่วไปทั้งหมด 524 คน มี 310 คน หรือ 59% มองว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อีก 122 คน หรือ 23% มองว่าราคาจะปรับลดลง และอีก 92 คน หรือ 18% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวSideways
Bob Haberkorn นักวิเคราะห์จาก RJO Futures เปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่มองว่าราคาจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน มาเป็นมองว่าจะราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้แทน โดยให้เหตุผลว่า ตลาดค่าเงินส่วนใหญ่มีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะปรับฐาน หลังเริ่มมีสัญญาณเกี่ยวกับการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ขณะที่ Phil Flynn นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group ได้กล่าวสนับสนุนแนวคิดว่าเฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยจำนวนครั้งที่ลดลง จึงอาจเป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์และหนุนราคาทองคำในสัปดาห์นี้ได้
Adrian Day ประธานบริษัท Adrian Day Asset Management ก็มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยจะมีปัจจัยมาจากความเสี่ยงทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป หรือในทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ที่ประสบกับความแตกแยกของสภาสูงและสภาล่าง โดยหากมีผลกระทบที่ชัดเจนต่อการออกนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ก็จะกลายเป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์และหนุนราคาทองคำขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม Kevin Grady ประธานบริษัท Phoenix Futures and Options LLC เป็นหนึ่งในผู้ที่มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ โดยให้เหตุผลว่า ตลาดทองคำไม่มีแรงหนุนมากพอที่จะหนุนให้ราคาปรับสูงขึ้นจากกรอบเดิมไปได้ และน่าจะเริ่มหมดกำลังลงในสัปดาห์นี้ แม้จะมีแรงหนุนจากความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่าง Brexit หรือการเข้าซื้อทองคำเป็นถือเป็นทรัพย์สินสำรองของบรรดาธนาคารกลางก็ตาม
ขณะที่ Colin Cieszynski หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์แห่ง SIA Wealth Management ประเมินว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยมองว่าราคาอาจลงไปทดสอบระดับ 1,200 เหรียญได้อีกครั้ง รวมถึง การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจสามารถหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการค้าบางอย่างได้ จึงมีโอกาสที่ตลาดจะผ่อนคลายความกังวล และหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นได้