• นักวิเคราะห์จาก GoldSilver Central ระบุว่า บรรดานักลงทุนเริ่มมีการหันเข้ามาทองคำกันมากขึ้น เนื่องจากสัญญาณความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มที่เฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย สงครามการค้าระหว่งาจีน-สหรัฐฯ แต่ราคาทองไม่สามารถปรับสูงขึ้นไปจากกรอบเดิมได้ เนื่องจากยังแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่อยู่ในระดับแข็งค่าอยู่
• นักวิเคราะห์จาก Oanda ประเมินว่า ทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้น จะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก
• นักลงทุนในตลาดทองคำจะจับตาการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุม G20 ณ ประเทศอาร์เจนติน่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ขณะที่บรรดาผู้นำประเทศในกลุ่ม G20 ต่างหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะสามารถจบลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มั่นใจว่าการพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่การสงบศึกระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายแต่อย่างใด
• นักวิเคราะห์จาก ANZ ประเมินว่า เริ่มมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับผลลัพณ์ของการประชุม G20 จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถหนุนให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้บ้างในวันนี้
นอกจากนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดที่ประชุมไปเมื่อวันที่ 7-8 พ.ย. ก่อนผ่านมา ภายในสัปดาห์สัปดาห์นี้ โดยตลาดจะจับตาการเปิดเผยรายงานดังกล่าว เพื่อดูว่าเฟดมีท่าทีชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
• ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 14.33 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 839.70 เหรียญ
• ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 1.1% บริเวณ 1,131.00 เหรียญ หลังจากที่ราคาปรับลดลงถึง 3% ในช่วงตลาดก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงรายวันอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.