อย่างไรก็ตาม ตลาดมีการตอบรับการพบกันครั้งนี้ค่อนข้างผสมผสาน หลังจากที่นายทรัมป์ได้กล่าวว่า “ข้อตกลงการค้ากับจีนอาจเกิดขึ้นได้จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมต้องการให้เป็นอย่างนั้นหรือไม่”
โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,224.21 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลงเล็กน้อยบริเวณ 1,229.7 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก Religare Broking ระบุว่า ตลาดจะจับตาความคืบหน้าในการประชุม G20 อย่างใกล้ชิด โดยหากมีสัญญาณเชิงบวกต่อเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้า ก็จะเป็นการกดดันค่าเงินดอลลาร์และหนุนทองคำขึ้นมา แต่ในทางตรงกันข้าม หากความตขัดแย้งมีสัญญาณรุนแรงยิ่งขึ้น ราคาทองคำก็อาจเผชิญแรงกดดันเสียเอง
• นักวิเคราะห์จาก GoldSilver Central คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวแบบ Sideways ไปก่อน โดยจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก
• รายงานการประชุมที่เปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า เฟดยังมีแนวโน้มสูงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจพิจารณาชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีหน้า รวมถึงวิธีการที่เฟดจะส่งสัญญาณดังกล่าวให้กับตลาด
• เทรดเดอร์จากฮ่องกง ระบุว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน ที่อยู่ระหว่าง 1,211 - 1,215 เหรียญ จนถึงเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วัน ดังนั้นจึงคาดว่า ราคาทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,215 – 1,230 เหรียญ
• ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 1,187.65 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,190 เหรียญ ในช่วงตลาดก่อนหน้า จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นอัตราการปรับตัวสูงขึ้นรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค. 2017
ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 14.32 เหรียญ โดยในภาพรวมรายเดือน ราคาปรับสูงขึ้นได้ประมาณ 0.7%
ขณะที่ราคาแพลทตินั่ม ปรับลดลง 0.4% บริเวณ 813.40 เหรียญ โดยราคามีแนวโน้มปรับลดลงในภาพรวมรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 หลังจากที่ย่อตัวลงมา 3% ในสัปดาห์ก่อนหน้า