โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.7% บริเวณ 1,230.78 เหรียญ และทำระดับสูงสุดที่ 1,231.34 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 7 พ.ย. ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.8% บริเวณ 1,235.2 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Geojit Financial Services ระบุว่าราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.5% ขณะที่ตลาดจะจับตาการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 90 วันตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะสามารถหาจุดยืนร่วมกันได้หรือไม่
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ถูกมองเป็น Safe-haven หลักในรอบปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ Trade war แต่หลังจากที่ความกังวลดังกล่าวได้ผ่อนคลายลง ทำให้เกิดแรงเทขายในค่าเงินดอลลาร์ตามมา รวมทั้งยังมีแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่ส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจจบลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้
• นักวิเคราะห์จาก Nirmal Bang Commodities ระบุว่า มุมมองเชิงลบที่มีต่อราคาทองคำเริ่มจางหายไป และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็เริ่มที่ชะลอตัวลง ดังนั้นช่วงระยะเวลานี้ จึงเหมาะสมสำหรับการซื้อทองคำสะสม พร้อมคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปถึงระดับ 1,250 เหรียญภายในวันที่ 31 ธ.ค.
• นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank (NAB) คาดการณ์ว่า หากเฟดมีการส่งสัญญาณความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชัดเจนมากขึ้น ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะปรับสูงขึ้นได้อีก ขณะที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีกำหนดการจะขึ้นรายงานตนต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสภายในคืนวันพุธนี้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมอง่าราคาทองคำได้รับแรงหนุนในระยะสั้นๆ จากปัจจัยความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางเมือง เช่น การเจรจา Brexit ความขัดแย้งในแผนงบประมาณของอิตาลี และเหตุการณ์ความรุนแรงในฝรั่งเศส
• ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นเกือบ 1% บริเวณ 1,188.49 เหรียญ หลังจากยืนเหนือระดับ 1,200 เหรียญ เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.6% บริเวณ 14.40 เหรียญ และราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้นเกือบ 2% ที่บริเวณ 812.10 เหรียญ
• ผลสำรวจทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้โดย Kitco พบว่าทั้งบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วไปในตลาด ต่างมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวศูงขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงหนุนจากสัญญาณผ่อนคลายทางนโยบายการเงินจากเฟด รวมถึงความผ่อนคลายเกี่ยวกับประเด็น Trade war หลังการประชุม G20 ที่ทำให้ค่าเงินดอลลารืเริ่มอ่อนค่าลง
โดยมีนักวิเคราะห์ร่วมตอบแบบสำรวจจำนวน 16 คน ซึ่ง 11 คน หรือ 69% มองว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกภายในวันศุกร์สัปดาห์นี้ ขณะที่มี 1 คน หรือ 6% มองว่าราคาจะปรับลดลง และอีก 4 คน หรือ 25% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหว Sideways
ขณะที่นักลงทุนทั่วไปที่ร่วมตอบแบบสำรวจทั้งหมด 476 คน มี 269 คน หรือ 57% ที่มองว่าราคาจะปรับสูงขึ้น ขณะที่ 122 คน หรือ 26% มองว่าราคาราคาจะปรับลดลง และอีก 85 คน หรือ 18% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหว Sideways