• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 157.03 จุด คิดเป็น 24,527.27 จุด โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้นบริษัทแคทเทอร์พิลลาร์และโบอิ้งที่ปรับขึ้นได้กว่า 1% จากความคิดที่ว่า Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนจะเป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้น 0.6% ที่ 2,651.07 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้บริโภค ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด +1%ที่7,098.31 จุด จากหุ้น Facebook, Amazon, Netflix และ Google ปรับตัวขึ้น
ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับกับทิศทางเชิงบวกของประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน จึงส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ในช่วงต้นตลาดพุ่งขึ้นไปกว่า 458.05 จุด ทางด้านดัชนีS&P ขึ้นไป 1.85% และ Nasdaq ทะยานไปกว่า 2.35%
• รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า จีนกำลังจะเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มบริษัทต่างชาติ และการเคลื่อนไหวดังกล่าวดูจะมีขึ้นเพื่อสานสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยแผนดังกล่าวจะมาแทนที่แผน Made in China 2025 ที่มีขึ้นเพื่อภาคอตุสาหกรรม, พลังงาน และวิทยากรหุ่นยนต์
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสื่อของ Reuters โดยระบุว่า เขาจะเข้าแทรกแซงกระทรวงยุติธรรมกรณีการจับกุม CFO ของหัวเว่ย หากการช่วยหลือดังกล่าวจะนำไปสู่ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือการเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งหัวเว่ยถือเป็นบริษัทฯสื่อสารรายใหญ่ของจีน หรือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังพูดถึงการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดำเนินไป พร้อมยืนยันว่าเขาจะไม่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตราบเท่าที่เขายังมั่นใจว่าจะเกิดข้อตกลงทางการค้าที่ครอบคลุม
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี ขณะที่ค่าเงินปอนด์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน หลังจากข่าวที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษสามารถผ่านพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นางเมย์ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 1.69% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่มีรายงานว่า จีนเตรียมเปิดตลาดให้บริษัทต่างชาติมากขึ้น
โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.63% ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.43%
• นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 32.65-32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทปิดตลาดใกล้ระดับอ่อนค่าสุดของวัน หลังมีแรงซื้อค่าเงินดอลลาร์กลับเข้ามา แต่ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อค่าเงินตลาดเกิดใหม่ยังขึ้นอยู่กับเงินหยวน