ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลง 0.1% ที่ 1,237.51 เหรียญ หลังจากที่ไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 4 ธ.ค. ที่ 1,232.39 เหรียญในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ทรงตัวที่ 1,241.3 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities กล่าวว่า ราคาทองคำยังไม่สามารถฟื้นตัวได้หลังจากที่ปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ ขณะที่การเคลื่อนไหวของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันทองคำในช่วงปลายสัปดาห์
• การอ่อนตัวของข้อมูลเศรษฐกิจจีนและยุโรป รวมทั้งความกังวลต่อความเป็นไปได้ทีรัฐบาลสหรัฐฯจะเผชิญกับภาวะ Shutdown ได้ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมามีบทบาทในฐานะ Safe-Haven
• ดัชนีดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัส่วนใหญ่ แต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดรอบ 19 เดือนในคืนวันศุกร์บริเวณ 97.71 จุด
• ตลาดจับตาไปยังการประชุมเฟด 18-19 ธ.ค. ที่ถูกคาดว่าจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%
• นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone วิเคราะห์ว่า ตลาดจะฟื้นตัวได้เมื่อดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณหรือท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน แต่จะดอลลาร์จะยิ่งอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หากว่าเฟดยังคงกล่าวย้ำต่อความกังวลของเศรษฐกิจโลก
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ราคาทองคำหากหลุดแนวรับ 1,232 เหรียญ มีโอกาสจะปรับลดลงกลับลงมาแถวระดับแนวรับ 1,224 - 1,228 เหรียญ
• รายงานจาก CFTC ระบุว่า บรรดาเฮดจ์ฟันด์และกลุ่มผู้จัดการกองทุน มีการเปลี่ยนมาเพิ่มสถานะ Long Position มากขึ้นในตลาด COMEX เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการถือครองสถานะ Long Position มากที่สุดนับตั้งแต่ก.ค.
• นักวิเคราะห์จาก Heraeus Metals Hong Kong กล่าวว่า ความไม่แน่นอนจากประเด็น Trade war ยังคงเข้ากดดันตลาดทองคำอยู่ และในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสแบบนี้ก็ดูเหมือนภาพรวมจะตลาดจะยิ่งเงียบเหงา จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นนักลงทุนลดสถานะการถือครองลงก่อนช่วงสิ้นปี
• ราคาพลาเดียมปรับขึ้นมาที่ 1,238.2 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 14.56 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปรับลง 0.6% ที่ 782.5 เหรียญ
• ผลสำรวจทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้โดย Kitco พบว่า บรรดานักวิเคราะห์ต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปอย่างมาก ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้
โดยปัจจัยสำคัญที่ตลาดจับตาในสัปดาห์นี้ คือการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นครั้งที่ 4 ของปี 2018 แต่สิ่งที่ตลาดจะจับตาคือแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 ซึ่งในปัจจุบัน ตลาดมีการคาดการณ์ที่ลดลงไป หลังจากที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันได้เข้าใกล้ระดับ “Neutral” จึงส่งผลให้ตลาดมองว่าเฟดน่าจะมีจำนวนครั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงกว่าคาดการณ์เดิมสำหรับปี 2019
• นักวิเคราะห์จาก Pepperston ระบุว่า ปัจจัยหลักที่กดดันการขยายตัวของราคาทองคำมาตลอดปี 2018 ก็คือการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ แต่โอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะเริ่มทรงตัวหรืออ่อนค่าลงในปีหน้าเริ่มมีสูงยิ่งขึ้น เนื่องจากค่าเงินได้แข็งค่าทำจุดสูงสุดไปแล้วในปีนี้ ดังนั้น ราคาทองคำจึงมีโอกาสที่จะขึ้นไปได้ถึงระดับแนวต้านสำคัญที่ 1,300 เหรียญได้ภายในปี 2019
ทั้งนี้ Pepperston มีมุมมองในทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำว่าจะสามารถปรับขึ้นไปได้ถึงระดับ 1,500 เหรียญ แต่สำหรับช่วงกลางปี 2019 มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,300 เหรียญ และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 มองว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นไปได้ถึงบริเวณ 1,350 เหรียญ ซึ่งราคามีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้าน 1,375 เหรียญ และBreakout ขึ้นไปได้
ในขณะเดียวกัน หากทิศทางของทองคำในปี 2019 เป็นขาลง Pepperston มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,200 – 1,250 เหรียญ