ทั้งนี้ เฟดจะเริ่มต้นการประชุมประจำเดือนขึ้นในวันที่ 18-19 ธ.ค. และจะทราบผลในคืนวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งตลาดจะจับตาเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในปี 2019
· นักวิเคราะห์จาก GoldSilver Central คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อภายหลังจากการประชุมเฟด โดยจะมีแนวต้านแรกที่ระดับ 1,251 เหรียญ ส่วนแนวรับจะอยู่ที่ 1,245 เหรียญ
· ราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 1,248.14 เหรียญ ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยในช่วงบ่ายที่บริเวณ 1,246.21 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,252.2 เหรียญ
· ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างเคลื่อนไหวในแดนลบหลังจากที่ปรับอ่อนค่าลงมา 0.4% เมื่อวานนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ เนื่องด้วยความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures คาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์จะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยการปรับสูงขึ้นของราคาทองคำอาจถูกจำกัด เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุด
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมมาจากความอ่อนแอของตลาดหุ้นเอเชีย ที่ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดใหม่ในรอบปีในช่วงตลาดก่อนหน้า
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นไปเคลื่อนไหวบริเวณ 1,253 – 1,258 เหรียญ
· Gold Technical Analysis: ทองคำหลุดแนวโน้มขาลงก่อนหน้าประชุม
FX Street ระบุว่า ทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นก่อนทราบผลการประชุมเฟด ที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และส่งสัญญาณ Wait & See สำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019
ซึ่งหากการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นที่ชัดเจน ราคาทองคำมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้มาก ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคที่ราคาสามารถ Break เหนือเส้นเทรนขาลงมาได้เมื่อไม่นานมานี้
โดยจากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำสามารถรีบาวน์ขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงตลาดวานนี้ โดยเป็นฟื้นตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ราคาทำระดับต่ำสุดที่ $1,211 เมื่อวันที่ 28 พ.ย.
ดังนั้น การที่ราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อจึงมีความเป็นไปได้มากที่สุด ขณะที่แนวต้านแรกจะอยู่ที่ระดับ $1,257 ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของราคาทองคำจะจบสิ้นลงทันที หากเฟดไม่มีสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอย่างที่ตลาดคาดการณ์กันเอาไว้ โดยหากเป็นเช่นนั้นจริง ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำแทน
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 14.67 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับลดลง 0.3% บริเวณ 791.10 เหรียญ
ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,255.95 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,269.5 เหรียญ ในช่วงตลาดก่อนหน้า