· UBS คาดว่า ดัชนี S&P 500 อาจพุ่งบขึ้นกว่า 20% จากระดับปิดวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาภายในช่วงสิ้นปี 2019 โดยคาดว่าจะมีระดับราคาเป้าหมายของปีนี้ที่ 2,875 จุด และปรับขึ้นอีก 10% ในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่สิ้นปี 2019 จะอยู่ที่ 3,200 จุด
ขณะที่เฟดมีแนวโน้มจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดมีแนวโน้มจะตัดสินใจหั่นคาดการณ์จำนวนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าและนั่นจะสนับสนุนดัชนีราคาในหุ้น
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.3%
ตลาดจับตาไปยังมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจากรายงานที่ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกัน 2 เดือน
รวมทั้ง ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนตัวลงประกอบกับข่าวเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงทำระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.9%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนี Topix ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 1.82% ที่ระดับ 21,115.45 จุด หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. ที่บริเวณ 21,107.13 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีจีน ระบุว่ารัฐบาลจะมีการออกนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเข้ามาเพิ่มเติม แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวตามที่ตลาดคาดหวังแต่อย่างใด ในที่ประชุม Central Economic Work Conference ประจำปี
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวลดลง 0.8% ที่ระดับ 2,576.65 จุด
· นักบริหารการเงิน ได้ประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบสุดท้ายของปี 2561 มีโอกาสสูงขึ้นที่ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.50% โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยมีผลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสถาบันการเงินไม่มาก