นักวิเคราะห์จาก JP Morgan กล่าวเตือนไม่ให้นักลงทุนคาดหวังว่าราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำอาจปรับตัวลดลงอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี
โดยคาดการณ์ล่าสุด ธนาคารยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,200 - 1,250 เหรียญ จนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีราคาทองคำก็จะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นและอาจจะทะยานสู่ระดับ 1,400 เหรียญ
นักวิเคราะห์มองว่าในปี 2019 ราคาทองคำจะเคลื่อนไหว อยู่ที่ระดับ 1,460 เหรียญ ซึ่งเป็นมุมมองที่สดใสยิ่งกว่าปี 2016 เสียอีก
นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์ได้เตือนว่า ราคาทองคำจะถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และหนุนอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเพิ่มขึ้น รวมถึงยังคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 4 ครั้งในปี 2019
หากเฟดคุมเข้มทางนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง เส้นอัตราผลตอบแทนจะเพิ่มสูงขึ้นและทรงตัวในช่วงเวลาเดียวกัน ท่ามกลางนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยที่เป็นไปได้อย่างจำกัดเนื่องจากถูกกดดันจากภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ปริมาณความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการร่วงลงของตลาดหุ้นอาจผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นถึง 18%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนัก จนกว่าเฟดจะสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่แรงเทขายในตลาดหุ้นในช่วงปลายปี 2018 นี้เป็นไปตามเชิงเทคนิค จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก สำหรับปัจจัยหลักๆที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ คืออัตราผลตอบแทนที่แท้จริงและค่าเงินดอลลาร์
ทั้งนี้ JP Morgan ระบุว่า ในระยะสั้น ราคาทองคำยังคงมีความเสี่ยงที่จะถูกกดดันในแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงต้นปี 2019