โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.1% ทำระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 1,251.35 เหรียญ ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยที่บริเวณ 1,249.58 เหรียญ
ด้านราคาสัญญาทองคำค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 1,253.80 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ตลาดค่อนข้างทรงตัวในทิศทางเดิม เนื่องจากทุกคนกำลังจับตาผลการประชุมของเฟดในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับปี 2019
• นักวิเคราะห์จาก Kedia Commodities ระบุว่า ผลประกอบการที่อ่อนแอของตลาดหุ้นและสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าลง รวมทั้งยังมีแรงกดดันมาจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่แสดงจุดยืนต่อต้านการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์แนวรับของราคาทองคำไว้ที่ระดับ 1,240 เหรียญ ขณะที่แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,258 เหรียญ ซึ่งหากผ่านไปได้ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,270 เหรียญ โดยมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้ หากมีเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายทางนโยบายการเงิน
• ดัชนีดอลลาร์ในวันนี้ ปรับอ่อนค่าลงอีก 0.2% หลังจากที่ย่อตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อช่วงตลาดก่อนหน้า
• ด้านตลาดหุ้นเอเชียเริ่มหันเข้าหาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมากขึ้น เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ท่ามกลางการคาดว่าเฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายทางการเงินหลังการประชุมในคืนนี้
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,253 เหรียญ หากผ่านขึ้นไปได้ ก็จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,258 –1,266 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก JP Morgan กล่าวเตือนไม่ให้นักลงทุนคาดหวังว่าราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำอาจปรับตัวลดลงอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี
โดยคาดการณ์ล่าสุด ธนาคารยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,200 - 1,250 เหรียญ จนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีราคาทองคำก็จะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นและอาจจะทะยานสู่ระดับ 1,400 เหรียญ
• ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.7% บริเวณ 1,252.73 เหรียญ