• ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และความอ่อนแอของตลาดหุ้น หลังจากที่เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เฟดได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนนี้อีก 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ แต่สิ่งที่ผิดคาดของตลาดคือการที่เฟดยังคงยืนยันที่ดำเนินการตามแผนคุมเข้มทางการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม
ราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,248.48 เหรียญ หลังจากที่ปรับลดลงมาในช่วงตลาดก่อนหน้า โดยราคาได้ปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน มี่บริเวณ 1,252 เหรียญ ก่อนหน้าผลการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับตัวลดลง 0.4% บริเวณ 1,251.3 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Monarch Networth Capital กล่าวว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนมาจากแรงเข้าซื้อ Safe-haven ขณะตลาดเริ่มสู่ภาวะ Risk-off
• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.4% ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางมุมมองเชิงผ่อนคลายทางการงินที่ตลาดตอบรับกับถ้อยแถลงของเฟด ส่งผลให้บรรดานักลงทุนหันเข้าหาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
• เทรดเดอร์จากฮ่องกงระบุว่า ราคาทองคำเผชิญแรงกดดันบางส่วนมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมองแนวรับของทองคำไว้ที่บริเวณ 1,230-1,235 เหรียญ และคาดการณ์ว่าในระยะสั้น ทองคำจะเคลื่อนไหวโดยมีปัจจัยจากค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก
• นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะย่อตัวลงทดสอบระดับ 1,232 เหรียญ หากไม่สามารถผ่านลงมา ก็จะรีบาวน์กลับขึ้นไปถึงแนวต้านที่ 1,253 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก DailyFX ประเมินว่า ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนอยู่ แต่คาดว่าทิศทางขาขึ้นของทองคำจะสามารถดำเนินไปได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.7% บริเวณ 1,268.99 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 14.63 เหรียญ และราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 787.24 เหรียญ