· หุ้นยุโรปมีแนวโน้มเปิดตลาดวันศุกร์นี้ในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทำให้นักลงทุนเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนี FTSE 100 มีแนวโน้มเปิด -17 จุด ที่บริเวณ 6,694 จุด
· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะ Shut Down รัฐบาลสหรัฐฯและการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้เหล่านักลงทุนกลับเข้ามาหาสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.5%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยและรัฐบาลสหรัฐฯอาจเสี่ยงถูก Shut Down จึงเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 1.1% ที่ระดับ 20,166.19 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.0% ที่ระดับ 2,510.78 จุด
· ตลาดหุ้นจีนในปีนี้เผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวอาจยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2019 นักวิเคราะห์ชี้
โดยดัชนี Shanghai composite และ Shenzhen ของตลาดหุ้นจีนในปีนี้ต่างปรับร่วงลงมาถึง 20% และ 30% ตามลำดับ จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีผลประกอบการย่ำแย่ที่สุด เมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯที่ปรับร่วงลงมา 6% รวมถึงดัชนีอื่นๆอย่าง Nikkei 225 ของญี่ปุ่นที่ปรับลดลงกว่า 9% และดัชนี DAX ของเยอรมนีที่ปรับลดลงไป 16.6%
· กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน พ.ย.61 โดยภาพรวมการส่งออกลดลง 0.95% มูลค่า 21,237.2 ล้านเหรียญ จากตลาดคาดจะขยายตัว 3.1-3.2% จากผลกระทบความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลต่อไทยมากขึ้น ซึ่งกระทบต่อการส่งออกไทยไปจีน โดยเฉพาะในสินค้าซัพพลายเชน อีกทั้งส่งผลต่อการส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งเกาหลีและไต้หวัน
ส่วนการนำเข้า พ.ย. 61 ขยายตัว 14.66% มูลค่า 22,415 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,177.8 ล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ภาพรวมในช่วง 11 เดือนของปี 61 (ม.ค.-พ.ย.61) การส่งออกขยายตัว 7.29% มูลค่า 232,725 ล้านเหรียญ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 14.77% มูลค่า 231,343.9 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1,381.1 ล้านเหรียญ