ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเมื่อคืนนี้ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นปิดทำการและตลาดส่วนใหญ่เริ่มเตรียมตัวเข้าสู่วันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในคืนวันอังคารนี้
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีเฟดอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า เฟดเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลว่านายทรัมป์และบรรดาเจ้าหน้าที่คนสนิทกำลังหาหนทางไล่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ออกจากตำแหน่ง
• สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะ Shutdown นายทรัมป์และบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเดโมแครตเมื่อคืนนี้ ยังคงถกเถียงและกล่าวโทษกันไปมาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของอีกฝ่าย โดยที่นายทรัมป์ยังคงยืนยันที่หางบประมาณในการก่อสร้างกำแพงป็นมูลค่า 5 พันล้านเหรียญจากสภาคองเกรสให้ได้ และยังไม่มีท่าทีว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาจุดยืนร่วมกันได้แม้แต่น้อย
ขณะที่ที่ปรึกษาคนสนิทของนายทรัมป์ได้กล่าวเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าภาวะ Shutdown อาจยืดเยื้อออกไปถึงวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่จะเกิดการเปลี่ยนที่นั่งในสภาคองเกรส และพรรคเดโมแครตจะเข้ามาครองเสียงข้างมากในสภาล่างแทน
• บรรดากองทุนอนุพันธ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Futures) เริ่มมีมุมมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้จบสิ้นลงแล้ว และจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปี 2019 และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงภายปี 2020 ท่ามกลางความกังวลของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กดดันมุมมองกาปรรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด
ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้มีการออกคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดออกมา โดยหน่วยที่ทำการรวบรวมข้อมูลได้สรุปว่า บรรดาเจ้าหน้าเฟดส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 และจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอยู่แถวบริเวณ 2.75 – 3%
• ปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากสหรัฐฯของจีนปรับลดลงสู่ระดับ 0 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนไม่มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่ Trade war ระหว่างทั้ง 2 ประเทศเริ่มต้นขึ้น
ในทางกลับกัน จีนได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากบราซิลแทนที่สหรัฐฯ คิดเป็นปริมาณ 5.07 ล้านตันในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 80% ที่ระดับ 2.76 ล้านตัน
• ราคาน้ำมันดิบปรับร่วงเกือบ 7% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง โดยเป็นการปรับร่วงลงตามมูลค่าของตลาดหุ้นทั่วโลกที่เกิดจากความตึงเครียดทางการเมืองในสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -6.7% หรือ -3.06 เหรียญ/บาร์เรล ที่ระดับ 42.53 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 21 มิ.ย. 2017 โดยเคลื่อนไหวห่างจากระดับต่ำสุดของปี 2017 ที่ 42.05 เหรียญ/บาร์เรล เพียงแค่ 30 เซนต์
ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -6.2% หรือ -3.35 เหรียญ/บาร์เรล ที่ระดับ 50.47 เหรียญ ทำระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน