โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,273.71 เหรียญ ซึ่งในช่วงต้นตลาดราคาสามารถทำระดับสูงสุดได้ที่ 1,274.68 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 20 มิ.ย.
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 1,277.6 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก ICBC Standard Bank ระบุว่า บรรดานักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก จึงเข้าหาทองคำในฐานะ Safe-haven กันมากขึ้น โดยคาดว่าราคาทองคำจะสามารถขึ้นได้ถึงระดับ 1,300 เหรียญ ในอนาคตอันใกล้นี้
• ตลาดหุ้นเอเชียมีความผันผวนค่อนข้างสูงหลังวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับร่วงลงอย่างหนักในคืนก่อนหน้านี้ ซึ่งหุ้นสหรัฐฯได้ปรับร่วงติดต่อกันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับการ Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯ
• บรรดาหัวหน้าพรรคในสภาสูงสหรัฐฯ ยังคงไม่สามารถยอมรับข้อเรียกร้องของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงชายแดน ภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯจึงมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้ออกไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค.
ขณะที่นายทรัมป์ยังคงกล่าวโทษสาเหตุของการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ามาจากการดำเนินนโยบายของเฟด รวมถึงกล่าวตำหนิการทำงานของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด อย่างเปิดเผย
• นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า การเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าการลงทุนในทองคำ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตาม ควรเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากทองคำจะมีผลประกอบการที่ดีในช่วงที่ตลาดเผชิญกับความผันผวน
• นักการตลาดประจำ BMO ระบุว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2019 ขณะที่ปริมาณการขุดเจาะน่าจะเข้าสู่ภาะสะสมพลังมากขึ้น โดย 2 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำ นั่นก็คือ การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของเฟดและการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
โดยคาดว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นบริเวณ 1,260 เหรียญในไตรมาสแรก และปรับขึ้นไปสู่ระดับ 1,300 เหรียญ ในไตรมาส 2 และ 3 ของปี ก่อนจะปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1,270 เหรียญ
• ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.9% บริเวณ 14.86 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 787.49 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,244.60 เหรียญ