แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่ตลาดมีการพูดถึงเพียงแค่บางส่วน หรืออาจมองข้ามไปเลยนั้น คือโอกาสที่พรรคเดโมแครตจะพยายามผลักดันให้เกิดการฟ้องร้องนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากเดโมแครตเข้าครองเสียงข้างมากในสภาล่างภายในปี 2019
ทั้งนี้ การถูกฟ้องร้องไม่ได้หมายความนายทรัมป์จะถูกไล่ออกตำแหน่งในทันที แต่จะเป็นการหาเสียงข้างมากในสภาล่างกันก่อน ว่าคดีที่นายทรัมป์ได้ก่อไว้มีความร้ายแรงและสมควรต้องรับโทษหรือไม่ หลังจากนั้นถึงจะส่งเรื่องต่อไปยังสภาสูงเพื่อให้ลงมติว่าจะดำเนินโทษหรือไม่
อย่างไรก็ตาม Steve Okun ที่ปรึกษาด้านการเมืองจาก McLarty Associates ระบุว่า ไม่ว่าการฟ้องร้องจะเกิดขึ้นหรือไม่ การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจใดๆของนายทรัมป์ก็จะประสบความยากลำบากในการหาเสียงสนับสนุนในสภาอย่างแน่นอน
ซึ่ง Okun มองว่า เดโมแครตจะต้องพยายามฟ้องร้องนายทรัมป์ภายในปีหน้าอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ Okun ยังได้ยกคำพูดของ Jerry Nadler ว่าที่ประธานคณะกรรมการด้านความยุติธรรมแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ ที่กล่าวว่านายทรัมป์อาจถูกฟ้องร้องด้วยความผิดฐานจ่ายเงินเพื่อปิดปากผู้หญิงจำนวนหนึ่ง ในกรณีที่ตรวจพบว่าเป็นความจริง
ถึงแม้ Jerry จะไม่ได้ระบุว่า เดโมแครตจะดำเนินการฟ้องร้องนายทรัมป์หรือไม่ แต่ความผิดดังกล่าวของนายทรัมป์ เป็นความผิดที่ถูกฟ้องร้องได้ นอกจากนี้ นายทรัมป์อาจถูกฟ้องร้องเพิ่มเติมในกรณีพยายามขัดขวางการดำเนินงานด้านความยุติธรรมของคณะสืบสวนพิเศษได้อีกด้วย
ซึ่งรายงานจาก NBC News ได้ระบุว่า Robert Mueller หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ ใกล้ที่จะเขียนรายงานการสืบสวนข้อต้องสงสัยการแทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2016 เสร็จแล้ว และคาดว่าจะดำเนินการส่งเล่มรายงานต่ออัยการสูงสุดอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือน ก.พ.
หากนายทรัมป์ถูกฟ้องร้องจริง รัฐบาลสหรัฐฯก็จะถูก Shutdown ลงแบบจริงๆจังๆ เพราะว่านายทรัมป์จะไม่สามารถทำงานด้านอื่นๆได้เลย นอกจากการพยายามปฏิเสธข้อฟ้องร้องดังกล่าว จึงเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับปี 2019
ตลาดมีความกังวลในระดับสูง
ในปัจจุบัน ความตึงเครียดทางการเมืองในสหรัฐฯได้ทำให้บรรดาผู้ประกอบการมีความกังวลอยู่ในระดับสูงกันไปถ้วนหน้า
โดยนโยบายเศรษฐกิจต่างๆของนายทรัมป์ เช่น การถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลง Trans-Pacific Partnership ตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ารับตำแหน่ง ได้ทำให้บรรดาผู้ประกอบการในสหรัฐฯมีความเสียเปรียบในการดำเนินธุรกิจใดๆนอกสหรัฐฯ
นอกจากนี้ การที่นายทรัมป์ให้ความสำคัญไปยังนโยบายการอพยพมากเกินไปยิ่งทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเลวร้ายลงเรื่อยๆ เนื่องจากความดื้อดึงของนายทรัมป์ในการเรียกร้องงบประมาณสำหรับการก่อสร้างกำแพงชายแดน ได้ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องถูก Shutdown ลงไปบางส่วนซึ่ง Okun ก็ได้คาดการณ์ว่า ภาวะ Shutdown ในปัจจุบัน อาจยืดเยื้อออกไปจนถึงวันที่ 7-8 ม.ค.
ทั้งนี้ Okun มองว่า สถานการณ์ในปี 2019 อาจเลวร้ายยิ่งกว่าในปี 2018 และได้ยอมรับว่าไม่เคยเห็นภาวะที่ตลาดมีความกังวลสูงขนาดนี้มาก่อนเลย