นักวิเคราะห์จาก FX Street กล่าวสรุปคาดการณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปี 2019 ไว้ดังนี้ :
เศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 น่าจะยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอยู่ โดยเฉพาะในภาคตลาดแรงงานและผู้บริโภค ซึ่งจะได้รับแรงหนุนเดิมจากในปี 2018 ส่งผลให้ขยายตัวได้จนถึงเดือน มิ.ย. ของปี 2019 แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ผลกระทบที่มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากพิจารณาจากโอกาสที่เศรษฐกิจจีนและอียูจะชะลอตัวในปี 2019 ด้วยแล้ว ผลกระทบที่จะเกิดกับภาพรวมเศรษฐกิจโลกน่าจะมีความรุนแรงมากทีเดียว
สำหรับการปรับลดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปรับลดลงเหลือ 2 ครั้ง จากเดิมที่ 3 ครั้ง เป็นการตอกย้ำถึงความกังวลของเฟดที่มีต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Brexit หรือ Trade war ตลอดจนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยหากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง ก็จะมีโอกาสเห็นเศรษฐกิจโลกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง รวมถึงเฟดที่อาจกลับมาคุมเข้มทางการเงินต่อ
สำหรับค่าเงินดอลลาร์ FX Street คาดการณ์ว่า ค่าเงินจะคงอยู่ระดับแข็งค่าได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 แม้ว่าจะมีแรงกดดันมาจากการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก็ตาม โดยค่าเงินดอลลาร์น่าจะได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะ Safe-haven ประกอบกับการที่ค่าเงินปอนด์และยูโรยังคงอ่อนค่าจากความผันผวนของเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนของ Brexit แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ค่าดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง หากสิ่งที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับ Brexit มากที่สุดไม่เกิดขึ้นจริง จึงอาจทำให้ค่าเงินปอนด์และยูโรฟื้นกลับมาแข็งค่าได้ ขณะที่ความตึงเครียดจาก Trade war จะยิ่งดึงความน่าสนใจออกจากค่าเงินดอลลาร์ไปมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากที่สุด คือความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนมีอำนาจมากพอที่จะช่วยรักษาการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจโลกได้ แม้เศรษฐกิจยูโรจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวก็ตาม ดังนั้น หากสหรัฐฯและจีนสามารถหาจุดยืนร่วมกันทางการค้าได้ กิจกรรมทางการค้าก็จะกลับมาคึกคักมากขึ้น รวมไปถึงความเชื่อมั่นที่จะกลับเข้าสู่ตลาด