โดยราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.6% ที่บริเวณ 1,274.50 เหรียญ หลังขึ้นจุดสูงสุดที่ 1,279.06 เหรียญ ในช่วงตลาดก่อนหน้า ซึ่งระดับสูงสุดของเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 8.10 เหรียญ ที่ระดับ 1,281.10 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์เป็นปัจจัยช่วยหนุนให้มีแรงเข้าซื้อกลับมาในตลาดทองคำ รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ที่อ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำก็แข็งแกร่งมากทีเดียว จึงช่วยดึงดูดแรงซื้อจากนักลงทุนที่เทรดตามกราฟได้มากขึ้น
• การปรับสูงขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานซืนนี้ เริ่มอ่อนกำลังลงในคืนที่ผ่านมา หลังจีนรายงานผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง จึงยิ่งกดดันทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯเปิดลดลงอย่างมากในช่วงต้นตลาดนิวยอร์ก
โดยนักวิเคราะห์จากเยอรมนี ได้ระบุว่า การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นคงอยู่ได้ไม่นานนัก และมุมมองในตลาดหุ้นก็เริ่มกลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ
• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงอีก 0.5% จึงเป็นสัญญาณว่าราคาทองคำจะถูกลงสำหรับประเทศอื่นๆที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินดอลลาร์
• ภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯถูกคาดการณ์ว่าจะยืดเยื้อออกไปจนกว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะกลับมาทำงานกันอีกครั้งในวันที่ 3 ม.ค. โดยรัฐสภายังคงมีความแตกแยกกันเกี่ยวกับข้อเรียกร้องงบประมาณสำหรับการก่อสร้างกำแพงชายแดนเป็นจำนวนเงิน 5 พันล้านเหรียญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
• นักวิเคราะห์จาก Think Markets UK ประเมินว่า ความเชื่อมั่นของตลาดทองคำอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่นักลงทุนจะทยอยเข้าซื้อทองคำเรื่อยๆ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ปี 2019 ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกหลากหลายประการ
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออก 2.35 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 787.67 ตัน
• ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.92% บริเวณ 15.17 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 15.25 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือน ส.ค. ในช่วงตลาด่กอนหน้า
ขณะที่ราคาแพลทตินั่มปรับลดลง 0.78% บริเวณ 788.40 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 1,261.50 เหรียญ