• ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.69% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่บริเวณ 110.58 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาได้เมื่อวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอในตลาดหุ้ยเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง ส่งผลให้บรรดานักลงทุนหันกลับเข้าหาสินทรัพย์ Safe-haven
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.59% เคลื่อนไหวแถวบริเวณ 96.51 จุดในช่วงเช้านี้
• โดยนักวิเคราะห์จาก Silicon Valley Bank ระบุว่า ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลง ส่งผลให้บรรดานักลงทุนกลับเข้าถือครองค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำ และถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะปรับแข็งค่าขึ้นได้อย่างอย่างแข็งแกร่งในภาพรวมปีนี้ แต่ดูเหมือนค่าเงินจะไม่สามารถไปต่อได้มากกว่านี้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสัญญาณการผ่อนคลายทางนโยบายการเงินของเฟด
• ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ดูเหมือนจะได้รับแรงหนุนเพียงเล็กน้อยจากการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับลดลงในการรายงานเมื่อคืนนี้เท่านั้น เนื่องจากเป็นสัญญาณว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเริ่มที่จะเข้าสู่ระดับทรงตัวหลังจากที่ปรับสูงขึ้นติดต่อกันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
• CB Consumer Confidence หรือมาตรวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ปรับลดลง 8.3 จุด สู่ระดับ 136.4 จุด ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นอัตราปรับลดลงที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี จึงยิ่งสร้างความกังวลให้กับตลาดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานสหรัฐฯดูจะยังมีความแข็งแกร่งอยู่ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับลดลงไป 1,000 ราย สู่ระดับ 216,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้าย และเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี ที่ระดับ 202,000
• สภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯมีการจัดการประชุมสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยไม่มีวี่แววว่าทางสภาจะหาหนทางใดๆมาหยุดภาวะ Shutdown ซึ่งได้เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว ก่อนที่รัฐสภาจะกลับมาพบกันใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า
• ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังจากปรับขึ้นเมื่อวานนี้ได้ 8% ท่ามกลางตลาดที่ยังคงมีแรงกดดันจากความกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปริมาณอุปทานน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -4.24% หรือ -2.31 เหรียญ ที่ระดับ 52.16 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -3.48% หรือ -1.61 เหรียญ ที่ระดับ 44.61 เหรียญ/บาร์เรล
Thai
Eng