• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ท่ามกลางสัปดาห์สุดท้ายของสัปดาห์ โดยภาพรวมดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 76.42 จุด ที่ระดับ 23,062.40 จุด โดยระหว่างวันมีการปรับขึ้นไปได้กว่า 243.06 จุด ก่อนจะปรับตัวลงมาประมาณ 155.26 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด -0.1% ที่ระดับ 2,485.74 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขึ้น 0.1% ที่ 6,584.52 จุด สำหรับสัปดาห์ที่แล้วยังคงเป็นสัปดาห์ที่หุ้นสหรัฐฯสามารถปรับขึ้นได้ 2.75% และนับเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่ดัชนีปรับขึ้นได้
โดยภาพรวมเดือนธ.ค. อาจเรียกได้ว่าหุ้นหลักของสหรัฐฯมีการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1931 โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงไปกว่า 9.9% ขณะที่ดาวโจนส์เดือนเดียวร่วงลงไป 9.7%
• ขณะที่วันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2018 ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้นได้กว่า 265.06 จุด คิดเป็น +1.15% ที่ระดับ 23,327.46 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.85% ที่ 2,506.85 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.77% ที่ 6,635.28 จุด โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับแรงหนุนแม้ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยตลาดดูจะตอบรับกับความคาดหวังครั้งใหม่ที่จะเห็นทางแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ หลังจากที่นายทรัมป์ ทวิตเตอร์ข้อความถึงความคืบหน้าในการหารือความเป็นไปได้ทางการค้ากับจีน
• หุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นได้ในวันสุดท้ายของปี 2018 แต่ภาพรวมตลาดยังคงทรุดตัวมากที่สุดในรอบทศวรรษ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.38% ขณะที่ FTSE100 ปิดลง 0.2%และดัชนี CAC ของฝรั่งเศสขยับขึ้นได้กว่า 1%
ทั้งนี้ หุ้น FTSE ของอังกฤษปรับตัวร่วงลงไปกว่า 12% จากช่วงต้นปี เพราะได้รับผลกระทบตลอดช่วงหนึ่งจากความไม่แน่นอนของ Brexit ที่ทำให้เราเห็นดัชนีร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008
• ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดด้วยท่าทีระมัดระวังในการเปิดทำการวันแรกของปี 2019 หลังจากที่ผันผวนมาตลอดปี 2018 ท่ามกลางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่มีภาพรวมเป็นแดนลบ ขณะที่ดัชนี ASX ของออสเตรเลียเปิดขยับขึ้นเพียง 0.11%
สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปิดทำการในวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้จะเปิดทำการเวลา 09.00น. ในวันนี้ตามเวลาฮ่องกง
• ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ไว้ระหว่าง 32.30-32.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ น่าจะอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนธ.ค. 61 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของประธานเฟด สถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐฯ และประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์