โดยราคาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,282.61 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,284 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ตลาดมีความเชื่อมั่นที่ดีกลับเข้ามาบางส่วนจากสัญญาณว่าความขัดแย้งทางการค้าอาจผ่อนคลายลง เราจึงเห็นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำปรับย่อตัวลงมา
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ครึ่งในช่วงต้นตลาดวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณว่าตัวแทนการเจรจาจากสหรัฐฯและจีนอาจสามารถร่วมกันหาข้อตกลงทางการค้าได้
· ขณะที่ปริมาณความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังประธานเฟดยอมรับถึงความเสี่ยงในเศรษฐกิจและอาจมีการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลงในปี้นี้
· นักวิเคราะห์จาก Yes Securities มองว่า ถ้อยคำดังกล่าวของประธานเฟด เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้แต่อย่างใด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นแรงหนุนให้กับราคาทองคำได้ ขณะที่บรรดาธนาคารกลางก็มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหวของบรรดากองทุน ETF ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น ราคาทองคำอาจสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้อีก หากบรรดากองทุนมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้น
· ทั้งนี้ ตลาดกำลังเฝ้ารอรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 18-19 เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดเผยในช่วงค่ำคืนนี้เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ประเมินว่าราคาทองคำอาจมีการทำ Top ไปแล้ว ดังนั้นหากราคาปิดต่ำกว่าแนวรับแรกที่ 1,282.27 เหรียญในวันนี้ ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะย่อลงมาต่อถึงบริเวณ 1,257.60 – 1,266.44 เหรียญ
· ในขณะที่ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ระดับ 1,340.50 เหรียญ
Standard Chartered คาดการณ์ว่าปริมาณอุปสงค์ในพลาเดียมจะยังคงแข็งแกร่ง ส่วนปริมาณอุปทานมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอไปจนถึงปี 2020 ดังนั้นโอกาสที่ราคาพลาเดียมจะปรับสูงขึ้นได้อีก จึงมีค่อนข้างสูง
· ด้านราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.2% บริเวณ 15.62 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทธินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% ที่บริเวณ 819.50 เหรียญ