• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 10 มกราคม 2562

    10 มกราคม 2562 | SET News

·         ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 91.67 จุด ที่ระดับ 23,879.12 จุด ซึ่งถือเป็นการปิดแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.4%ที่ 2,584.96 จุด และปิดแดนบวกได้ 4 วันทำการแล้วเช่นกัน ทางด้านดัชนี Nasdaq ปิด +0.87ที่ 6,957.08 จุด


ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นได้ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้น  หลังสรุปประชุมเฟดเดือนธ.ค. ที่ดูจะตอกย้ำคำพูดของประธานเฟดในสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการอดทนรอในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ย


นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัท Apple กว่า 1.7% ประกอบกับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ขึ้นมา 1.5% เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น 5.2% ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเช่นกัน


อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีการอ่อนตัว หลังจากที่ยังมีสัญญาณ Shutdown ต่อระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำพรรคเดโมแครตที่ดูเป็นไปไม่ค่อยดีนัก โดยนายทรัมป์ ยังคงทวิตเตอร์ข้อความกล่าวตำหนิในเชิงเสียเวลาในการหารือ ขณะที่ผู้นำวุฒิสภาคนสำคัญต่อว่าที่นายทรัมป์เดินออกจากที่ประชุม


·         นักลงทุนกำลังพิจารณาไปยังความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเมื่อวานนี้ หลังจากที่ นายเท็ด แมคคินนีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าด้านเกษตรกรรมของสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจากับจีนเป็นไปด้วยดี และถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับสองประเทศ

·         ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนบวกหลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดใหม่รอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.6% นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์และเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นได้ดีที่สุดหลังมีข่าวเชิงบวกต่อการเจรจาทางการค้าดังกล่าว

·         ตลาดหุ้นเอเชียเปิดมาด้วยท่าทีระมัดระวังหลังจากที่นักลงทุนตอบรับกับข้อสรุปทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทางการค้าของสหรัฐฯมีการร้องขอให้จีนจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางด้านการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และในการเจรจายังมีการมุ่งประเด็นไปยังจีนให้คำมั่นที่จะเข้าซื้อสินค้าเกษตร, พลังงาน และกลุ่มผลิตสินค้าและด้านบริการจากสหรัฐฯเพิ่มเติม ขณะที่ทางการจีนแสดงความคาดหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ปัญหาร่วมกันได้ เพื่อรักษาสัมพันธ์และให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ต่อไป

ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.9% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -2% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยข้อมูลเงินเฟ้อจีนที่จะมีขึ้นในช่วงเปิดตลาด ทั้ง CPIและ PPI ประจำเดือนธ.ค.

·         นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.90-32.10 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามแรงซื้อ-ขายดอลลาร์ และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

·         คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตั้งเป้าคำขอส่งเสริมการลงทุนปีนี้ เงินลงทุน 7.5 แสนล้านบาทซึ่งเป็นเป้าหมายใกล้เคียงปีที่แล้ว สำหรับในปี 2561 ยอดส่งเสริมการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนกว่า 9 แสนล้านบาท จากเป้าหมายที่ 7.2 แสนล้านบาท ถือว่าเกินเป้าที่วางไว้ โดยเฉพาะในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ถือว่าประสบความสำเร็จ มีมูลค่าขอส่งเสริมการลงทุนขยายตัวได้มาก

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com